‘บิ๊กบจ.’ แห่เก็บหุ้นช่วงพักฐาน 6 ผู้บริหาร ‘STGT’ กอดคอซื้อเพิ่ม

‘บิ๊กบจ.’ แห่เก็บหุ้นช่วงพักฐาน 6 ผู้บริหาร ‘STGT’ กอดคอซื้อเพิ่ม

ดัชนีตลาดหุ้นไทย(SET) ตลอดเดือนส.ค.ที่ผ่านมา เหมือนอยู่ระหว่างเลือกทางว่าจะไปทางไหน เพราะดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ ยกเว้นวานนี้(19ส.ค.) ที่ SET มีแรงเทขายออกมาจากความกังวลเรื่องการพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในประเทศ 

ในช่วงก่อนหน้านี้ ช่วงที่ SET ปรับฐานลงมาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,300 จุดต้นๆ พบว่า มีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนเข้ามาซื้อหุ้นตัวเองเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก

จากข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59)ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เมื่อ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา พบว่า มีจำนวนรายการซื้อขายเพิ่มขึ้น 32 รายการ เป็นการทำรายการในหลายบริษัท ซึ่งส่วนมากจะเห็นว่าผู้บริหารได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทที่บริหารงานอยู่ ในช่วง 17 - 18 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ SET ปรับฐานลงมาแตะระดับ 1,315 จุด ลดลงมาจากระดับ 1,350 จุด เมื่อสัปดาห์ก่อน

ผู้บริหารที่เข้าซื้อหุ้นของบริษัทที่บริษัทงานอยู่มากที่สุดคือ นายเอกชัย สุขุมวิทยา ผู้บริหารของ บมจ.เจ มาร์ท หรือ JMART เข้าซื้อรวม 1.8 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 13.38 บาท โดยเป็นการซื้อต่อเนื่องจากเมื่อวันทำการก่อนหน้าซึ่งเข้าซื้อไป 1 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 13.27 บาท รวมสองวันซื้อไปกว่า 37 ล้านบาท

ขณะที่กลุ่มผู้บริหารของ บมจ.ศรีตรังโกลฟ์ (ประเทศไทย) หรือ STGT จำนวน 6 ราย ได้แก่ นางอรลักษณ์ นาคินทร์, นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล, นายกิติชัย สินเจริญกุล, นายวิทย์นาถ สินเจริญกุล, นายสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ และนายอนันต์ พฤกษานุศักดิ์ ได้เข้าซื้อหุ้นรวมกัน 1.3 แสนหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 67 บาท คิดเป็นมูลค่าราว 8.7 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีรายการซื้อจากผู้บริหารของ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต หรือ BLA โดย นายโชน โสภณพนิช จำนวน 6.89 หมื่นหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 15.40 บาท คิดเป็นมูลค่า 1.06 ล้านบาท รวมถึงรายงานการซื้อของ นายยุทธ ชินสุภัคกุล ผู้บริหาร บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป หรือ EP เข้าซื้อรวม 1.09 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 4.09 บาท คิดเป็นมูลค่าราว 4.5 ล้านบาท

หากพิจารณาการปรับฐานก่อนหน้า ช่วงปลายเดือน ก.ค. ต่อเนื่องถึงต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา พบว่ามีรายการการซื้อของผู้บริหารบางส่วนเช่นกัน อย่าง นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค และ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ถือหุ้น บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MINT รวมกันเพิ่มขึ้น 17.32 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 17.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 303 ล้านบาท ขณะที่ นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ผู้บริหารของ บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ ASP ได้เข้าซื้อจำนวน 4 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 1.8 บาท คิดเป็นมูลค่า 7.2 ล้านบาท

 

 

อย่างไรก็ตาม พบแรงขายออกมาจากผู้บริหารของ MINT หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาเช่นกัน โดย นายจอห์น สก็อต ไฮเน็ค ขายหุ้นรวม 3.5 แสนหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 20.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 7.1 ล้านบาท

นายณัฐชาติ เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนี้ตี้ กล่าวว่า การซื้อขายของผู้บริหารมีหลากหลายเหตุผลขึ้นกับหุ้นแต่ละตัว ซึ่งอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาพรวมตลาดอย่างเดียว ทั้งนี้ หากพิจารณาแนวรับที่บริเวณ 1,300 จุด ส่วนตัวมองว่าในไตรมาส 3 มีโอกาสเท่าๆ กันที่ดัชนีจะยืนอยู่หรือลดลงไปต่ำกว่า แต่ในช่วงไตรมาส 4 มองว่าดัชนีหุ้นไทยมีความเสี่ยงรออยู่มาก และมีโอกาสสูงที่จะเห็นดัชนีต่ำกว่า 1,300 จุด อีกครั้ง

“สำหรับไตรมาส 3 นี้ ภาพรวมของตลาดน่าจะเป็นลักษณะ Sideway down คือ ดัชนีไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ และค่อยๆ ซึมลง เพราะยังขาดแรงหนุน แต่เชื่อว่าดัชนีจะยังไม่หลุดลงไปต่ำกว่า 1,260 จุด เพราะมาตรการอัพติ๊ก (Uptick rule) รวมถึงมาตรการพักชำระหนี้ และสภาพคล่องที่ถูกอัดเข้ามา แต่หลังหมดมาตรการเหล่านี้ เชื่อว่าดัชนีช่วงไตรมาส 4 จะลดลงไปต่ำกว่า 1,300 จุด รวมถึงแรงกดดันจากสงครามการค้าที่มีโอกาสปะทุหลังเลือกตั้งสหรัฐแล้วเสร็จ”