“อาร์เอส” พลิกวิกฤติอีกครั้ง มุ่งคอมเมิร์ชบรรลุเป้าหมื่นล้าน

 “อาร์เอส” พลิกวิกฤติอีกครั้ง   มุ่งคอมเมิร์ชบรรลุเป้าหมื่นล้าน

การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจสื่อทีวีดิจิทัลเกิดแรงกระเพื่อมมากขึ้นในช่วงเกิดโควิด-19 จากการอยู่บ้าน ลดการติดเชื้อ มีการล็อกดาวน์ ทำให้ประชาชนหันมาเสพคอนเทนต์ข่าวสารและความบันเทิงผ่านทีวีดิจิทัลมากขึ้น จนทำให้ตัวเลขผู้ชมผ่านทีวีมีผู้เข้าถึงเพิ่ม 15 %

หากแต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่ได้ทำให้สถานการณ์ธุรกิจสื่อกลับมาสดใสแต่อย่างไร เพราะตัวเลขเม็ดเงินโฆษณายังลดลงอย่างน่าใจหาย และยิ่งในช่วงเศรษฐกิจได้รับผลกระทบหนักจึงทำให้เจ้าของสินค้าลดค่าใช้จ่ายลงทันทีเพื่อรักษาสภาพคล่องและงบที่ตัดออกเป็นอันดับแรกๆ หนีไม่พ้นโฆษณาประชาสัมพันธ์

โดยส่งผลทำให้งบโฆษณาโดยรวมติดลบ 6% และในช่วงไตรมาสสองจะติดลบมากขึ้น บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ คาดการณ์ว่าเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมในปีนี้จะติดลบ 15-20% หรือมีมูลค่ารวม 7.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี ก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมโฆษณาในประเทศไทยจะมีมูลค่าประมาณ 1 แสนล้านบาท ขณะที่สื่อโทรทัศน์เม็ดเงินโฆษณาโดยรวมในปีนี้จะเหลือเพียง 4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

ตัวเลขกำไรของธุรกิจสื่อในครึ่งปีแรกที่ประกาศออกมาจึงเห็นขาดทุนอย่างหนักต่อเนื่อง ซึ่งบางรายยังต้องรอดูสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายลงได้เร็วแค่ไหน ท่ามกลางการระบาดระลอก 2 ในต่างประเทศ และวัคซีนที่มีความคืบหน้าแต่ยังไม่สามารถนำมาใช้กับคนได้จริง 100 %

แม้ว่าภาพธุรกิจทีวีดิจิทัลยังย่ำแย่รอภาวะเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว แต่เจ้าของช่องที่ปรับตัวตัวพลิกไปสู่ธุรกิจอื่นก่อนรายอื่นด้วยโมเดลธุรกิจคอมเมินซ์ ผ่านแพลตฟอร์ม ออนไลน์ ออฟไลน์ และทีวีดิจิทัล ช่อง 8 ที่มีอยู่ ของ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS กลับยังรักษากำไรไตรมาส 2 ปี 2563 เติบโตเอาไว้ได้ 108 ล้านบาท ทำให้ครึ่งปีแรกมีกำไร 295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.90 % 

หลักมาจากธุรกิจพาณิชย์ ที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุด 56 % จนทำให้อาร์เอส สามารถย้ายหมวดธุรกิจมายังกลุ่มพาณิชย์และธุรกิจสื่อได้ในปี 2562 เน้นจำหน่ายสินค้า สุขภาพและความงาม ผลิตภัณฑ์ส่วนตัว และเครื่องใช้ในครัวเรือน มีแบรนด์สินค้าของบริษัทเอง เช่น มาจีค (Magique)

การเบนเข็มมายังุรกิจดังกล่าวส่งผลทำให้บริษัทสร้างกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ จากไตรมาส 2 ปี 2563 อยู่ที่ 52.7 % จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 44.3 % ซึ่งเป็นช่วงที่รายได้ธุรกิจพาณิชย์ในไตรมาสดังกล่าวสามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 582 ล้านบาท

เมื่อเทียบกับรายได้สื่อที่ลดลงทั้งสื่อทีวีดิจิทัลและสื่อวิทยุจึงทำให้ อาร์เอส กลายเป็น สื่อที่พลิกตัวอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาตัวรอดในยุคที่สื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง จนแทบไม่มีปลายใหญ่กินปลาเล็ก เหลือเพียงปลาฉลาดที่ยังอยู่ ตามมุมมองของ ‘สุรชัย เชรษฐโชติศักดิ์ ‘ ในฐานเจ้าของและผู้บริหาร

ภาพในครึ่งปีแรกว่ายากในครึ่งปีหลังท้าทายไม่น้อยเพราะประชาชนยังตื่นกลัวโรคระบาด กำลังซื้อหาย เศรษฐกิจโลกสั่นคลอน แต่ อาร์เอส มองการเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรกที่เพราะมั่นใจใน ธุรกิจคอมเมิร์ช ที่มองว่าจะทำสถิติสูงใหม่ต่อเนื่องทุกไตรมาส จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เทเลเซลล์กว่า 500 คน

ด้วยธุรกิจสื่อ และอีเว้นต์ที่ยังได้รับผลกระทบทำให้บริษัทต้องปรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ลงอยู่ที่ 4,200 -4,300 ล้านบาท จากเดิม 5,250 ล้านบาท และยังพลิกฟื้นธุรกิจค่ายเพลงกลับมาโลกแล่นอีกครั้งโมเดลใหม่ ซึ่งต้นทุนเดิมของอาร์เอสมีอยู่แล้ว หรือธุรกิจวิทยุ ซึ่งทุกอย่างจะผสานไปพร้อมกับธุรกิจคอมเมิร์ชด้วย

การปรับตัวในครั้งนี้ยังรองรับเป้าหมายระยะยาวแตะ 10,000 ล้านบาท เพื่อให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจพาณิชย์ขึ้นเป็น 85 % และลดสัดส่วยรายได้อื่นทั้งธุรกิจสื่อทีวีดิจิทัลปัจจุบันอยู่ที่ 20-25 % ธุรกิจเพลง 5-7 % และธุรกิจวิทยุ 5-3 % จะน้อยลงตามลำดับ นั้นเพียงพอที่ทำให้นักลงทุนหันมาจับตาดูหุ้น RS ว่าจะต้านทานปัจจัยลบในธุรกิจทีวีดิจิทัลและโควิด-19 เป็นผู้รอดในปีนี้ด้วยหรือไม่