'อธิบดีฯศักดิ์ดา' แจงกมธ.ย้ำหลักฐานอัดเสียง ลั่นไม่ล้มมวย ถูกส.ส.ตบทรัพย์

"ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์" อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เข้าแจงกมธ.กฎหมาย ย้ำหลักฐานอัดเสียง ลั่นไม่ล้มมวย ถูก ส.ส. ตบทรัพย์ แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ หวั่นถูกฟ้องกลับ - สุดท้าย กมธ. สั่งประชุมลับ เชิญสื่อมวลชนออกจากห้อง

การประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธาน โดยวันนี้ ได้พิจารณาถึงกระแสข่าวที่มีอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ซึ่งเป็นคณะย่อยของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 เรียกรับเงินจากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ เพื่อแลกกับการผ่านงบประมาณ แต่วันนี้ คณะอนุกรรมาธิการฯดังกล่าว ไม่ได้ร่วมมาชี้แจงตามคำเชิญของคณะกรรมาธิการฯ มีเพียง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ พร้อมด้วย ผู้อำนวยการกองแผนงานกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นางสาวดวงมณี จั่นเพิ่ม มาชี้แจง ทำให้นายสิระ เจนจาคะ ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ พูดกลางห้องประชุมว่า คนที่เป็น ส.ส. และเป็นอนุกรรมาธิการ ไม่เดินทางมา ต้องรับผิดชอบและมีมาตรการที่มากกว่าคนทั่วไปแบบคูณสอง

โดยอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ชี้แจงว่า ในการชี้แจงงบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ในวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการซักถามเกี่ยวกับการขุดเจาะบ่อบาดาล ที่มีราคาต่างกว่าเอกชน ต่อมาวันที่ 22 กรกฎาคม ได้ชี้แจงอีกรอบหนึ่ง หลังจากนั้น วันที่ 4 สิงหาคม ช่วง 19.10 น. มีคนโทรศัพท์มา อ้างว่า เป็นกรรมาธิการท่านหนึ่ง มีการพูดคุยกัน ของาน ขอเงินตามจำนวนที่เคยระบุ ต่อมา วันที่ 5 สิงหาคม ตนเองพร้อมเจ้าหน้าที่ 5-6 คน เข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในวันนั้นระหว่างการชี้แจง เห็นว่า การชี้แจงในขณะนั้นดูแล้วไม่ใช่ประเด็นที่กรรมาธิการต้องการ จึงได้ลุกออกไปเข้าห้องน้ำ ไปเดินเล่นนอกห้อง เพราะไม่อยากฟัง เมื่อกลับมาก็ชี้แจงประเด็นเดิม คือเรื่องการขุดเจาะบ่อบาดาล และอนุกรรมาธิการบางท่านเหมือนไม่เข้าใจ ทั้งที่ชี้แจงแล้วทั้งในห้องประชุมและนอกห้องประชุม ซึ่งเห็นว่าการชี้แจงนั้นเปล่าประโยชน์ เลยตัดสินใจพูดความจริงตามที่เป็นข่าว เพื่อให้คณะอนุกรรมาธิการได้รับทราบข้อเท็จจริงตามที่เป็นข่าว

จากนั้น นายสิระ ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาขอเงินกับอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล บอกว่าได้ให้กับผู้บังคับบัญชาไปแล้ว

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ พยายามซักถามอีกว่า ทราบชื่อของบุคคลที่โทรศัพท์มาเรียกรับเงินแล้วใช่หรือไม่ และได้เปิดเผยชื่อดังกล่าวกับผู้บังคับบัญชาแล้วใช่หรือไม่ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อตนเอง และถูกฟ้องร้องดำเนินคดีกลับได้

ต่อมา อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ยอมรับกับคณะกรรมาธิการฯว่า ได้เข้าไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช. แล้วเมื่อหลายวันที่ผ่านมา และขณะนี้ สตง.ได้ติดต่อ เพื่อให้ไปชี้แจงแล้ว พร้อมยืนยัน สิ่งที่พูดกลางห้องประชุมอนุกรรมาธิการฯเป็นความจริง หากพูดเท็จ ก็คงไม่สมควรอยู่ในแผ่นดินนี้ รวมถึงครอบครัวด้วย หากเปิดเผยเบอร์และเปิดเทปให้ฟัง ทุกคนก็รู้จักหมด พร้อมระบุว่า มีพยานหลักฐานมากกว่าที่หลายคนเป็นห่วง เพราะชีวิตเคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาสองครั้ง ก็ผ่านอะไรมาพอสมควร เรื่องพยานหลักฐานมีพอสมควร แต่ขออนุญาตไม่เปิดเผย เพราะเมืองไทยมีอะไรที่ไม่คาดคิดได้ ในเมื่อตนเองพูดไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบ และเชื่อว่าให้หน่วยงานตรวจสอบดีกว่า ยืนยัน ตนเองไม่ล้มมวย เพราะถ้าไปหกล้มกลางทาง ก็จะเดือดร้อน พร้อมยืนยันอีกครั้งว่า เกิดขึ้นจริง

ต่อมา เวลาประมาณ 10.20 น. อนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 นายสาธิต อุ๋ยตระกูล ได้เข้ามารับฟังการพิจารณา โดยยืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องตบทรัพย์ ยอมรับว่า รู้สึกร้อนตัว เพราะอยู่ในอนุกรรมาธิการ แต่ยืนยันไม่รู้เรื่องนี้ อยากให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลชี้ตัวไปเลย พร้อมเปิดเผยว่า นอกจากตนเองแล้ว ยังมี ส.ส. ที่เป็นอนุกรรมาธิการซักถามกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ประเด็นค่าน้ำมันมากที่สุด ได้แก่ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ นายศิริพงษ์ รัศมี , ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ , และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาภิวัฒน์ นางนันทนา สงฆ์ประชา

จากนั้น ที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้สั่งประชุมลับ เนื่องจากกังวลว่า ผู้ที่มาชี้แจงจะได้รับผลกระทบจากการซักถามของคณะกรรมาธิการฯ จึงได้เชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุม