ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่ามากสุดในรอบ 2 ปี มอง SET index ยังเสี่ยงต่อการปรับฐานระยะสั้น

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่ามากสุดในรอบ 2 ปี มอง SET index ยังเสี่ยงต่อการปรับฐานระยะสั้น

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอ่อนตัวลงฉุดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปี

ภาพรวมตลาดสินทรัพย์เสี่ยงกลับมาเป็นบวกเล็กน้อยหลังผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอ่อนตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่สองและฉุดให้เงินดอลลาร์สหรัฐปรับอ่อนค่ามากสุดในรอบสองปี อย่างไรก็ตาม แผนการออกพันธบัตรสหรัฐฯ ในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค. อาจส่งผลให้บอนด์ยีลผันผวนแรงและอาจเป็นปัจจัยกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนของตลาดในระยะสั้น

ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน น่าจะเลวร้ายลงจนใกล้ช่วงเลือกตั้งปธน. การยกระดับกีดกันหัวเหว่ย โดยปิดกั้นการเข้าถึงชิปและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเพิ่มบริษัทในเครือลงในบัญชีดำ เราคาดความสัมพันธ์สหรัฐฯ จีนจะยังมีความเสี่ยงที่จะเลวร้ายลงอย่างน้อยจนใกล้การเลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐฯ ในช่วง พ.ย.

เราประเมินภาพตลาดระยะสั้นมี downside มากกว่า upside. การขาดปัจจัยบวกใหม่, ตัวเลขกำไรคาดการณ์หุ้นไทยที่ถูกปรับลดต่อเนื่อง, รวมถึง สถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองภายในประเทศ จะเป็นปัจจัยกดดันการฟื้นตัวของ SET index ต่อในระยะสั้น-กลาง ขณะที่ ตลาดวอลสตรีทเริ่มเห็นสัญญาณกลับตัวระยะสั้น แนะชะลอการไล่ซื้อหุ้นที่ราคาขึ้นมามาก

กลุ่มหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากข่าววัคซีนและมีโอกาสฟื้นตัวแรงหลังวิกฤตโควิด-19 จบลง ยังสามารถเคลื่อนไหวได้ดีเมื่อเทียบกับตลาดรวม เช่น กลุ่มโรงแรม สายการบิน อสังหาฯ ค้าปลีก แม้ปัจจัยการเมืองภายในประเทศอาจกดดันจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น แต่ตราบใดที่สถานการณ์ยังไม่รุนแรงหรือบานปลายการซึมลงของราคามองเป็นจังหวะทยอยซื้อสะสม

ยังประเมินปัจจัยภายนอกมีโอกาสทำให้ภาพการลงทุนระยะสั้นผันผวน 1) ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่มีแนวโน้มสูงขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐฯ ล่าสุดยกเลิกการหารือเกี่ยวกับประชุมติดตามความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าออกไปอย่างไม่มีกำหนด 2) แผนการออกพันธบัตรสหรัฐฯ ในช่วง ส.ค.-ต.ค.จำนวน 132 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับจากสงครามโลก ขณะที่ความต้องการประมูล (bid-to-cover ratio) อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรมีโอกาสดีดตัวขึ้น และ 3) ค่าเงินสหรัฐฯ มีความเสี่ยงแข็งค่าขึ้นจากระดับขายมากเกิน ซึ่งมีโอกาสกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้น

Theme การลงทุนที่น่าสนใจ เก็งกำไรรายตัว ในกลุ่มผลประกอบการดี ได้แก่ 1) กลุ่มอาหาร CPF, TU 2) ประกันภัย TIP, THRE 3) หุ้นปลอดภัย /มั่งคง ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, BCH, TPCH, WHAUP, EASTW 4) หุ้นฟื้นจากจุดต่ำสุด PTTGC, PTT 5) อื่นๆ AP, AI, CKP, STA, STGT // หุ้นที่ต้องระวัง 1) การเงิน SAWAD, MTC, KTC, AEONTS

ภาพรวมกลยุทธ์ ภาพรวมหุ้นโลกอาจเผชิญการปรับฐานจาก ความน่าสนใจลงทุนในหุ้น (EYG) ที่หดตัวลง การเก็งกำไรยังควรระวังความผันผวนระยะสั้นจากทิศทางค่าเงินสหรัฐฯ ที่มีโอกาสแข็งค่าขึ้น เก็งกำไรสั้นเลือก defensive (สื่อสารและอาหาร) // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร STGT*, CPF, ADVANC / ขายชอร์ต SAWAD (เป้า 42 ตัดขาดทุน 51.50)

แนวรับ 1,306 จุด / แนวต้าน : 1,330 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

ตัวเลขการสร้างบ้านสหรัฐพุ่ง 22.6% ในก.ค. - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 22.6% สู่ 1.496 ล้านหลังในเดือนก.ค. โดยเพิ่มจากระดับ 1.22 ล้านหลังในเดือนมิ.ย. โดยเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนก.ค.

ครม.อนุมัติโครงการ Soft Loan Plus ครม.เห็นชอบโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะพิเศษ (Soft Loan Plus) โดยช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเข้าถึงพ.ร.ก.ซอฟท์โลนได้มากขึ้น เงินกู้เฉลี่ยรายละ 1.6 ล้านบาท ซึ่งบสย.เป็นผู้ค้ำประกันสินเชื่อ และวงเงินของโครงการอยู่ที่ 57,000 ล้านบาท ระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 8 ปี

ครม.ส่งสัญญาณ’ช้อปช่วยชาติ’กระตุ้นเศรษฐกิจ– รองนายกรัฐมนตรี คาดได้ข้อสรุปมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในส.ค.นี้ โดยมาตรการใหม่ที่จะออกมามีการพิจารณาโครงการช้อปช่วยชาติ เช่นกัน

ประเด็นติดตาม: 19 ส.ค. – EU CPI เดือน ก.ค./ 21 ส.ค. – EU manufacturing PMI เดือน ส.ค.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)