อ่อนตัว

อ่อนตัว

ขายเมื่อรีบาวด์ เพื่อรอซื้อคืนที่แนวรับ (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1330 / 1338 จุด แนวรับ 1311 / 1303 จุด ทางเทคนิคยังไม่มีสัญญาณซื้อ จนกว่าจะสามารถกลับไปยืนเหนือแนวต้าน 1340 / 1346 จุด ปัจจัยลบยังคงเป็นความขัดแย้งของคนในสังคมต่อข้อเสนอของกลุ่มประชาชนรักประชาธิปไตย และสภาพัฒน์ ปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงเป็น -7.5% (จากเดิม -5.5%)

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

      1) ความร้อนแรงของการเมืองนอกสภายังเป็นความเสี่ยงใหญ่ที่อาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (-ตลาดหุ้นไทย)

      2) สภาพัฒน์ปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจไทยลงเป็น -7.5% (จากเดิม -5.5%) ส่วน Krungthai COMPASS ปรับลดเป้าเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2020-21E เป็น -9.1% และ +4.2% (จากเดิม -8.8% และ +6.1%) (-กลุ่มการเงิน)

      3) สหรัฐฯ ยกระดับกีดกันหัวเหว่ยเข้าถึงการซื้อชิพและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพิ่ม ความขัดแย้งกับจีนสูงขึ้น

       4) จีนอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่ม 7 แสนล้านหยวน วานนี้ ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้  OPEC-รมต.ประชุมหารือประเด็นต่างๆ ที่ผ่านมา / USA-ยอดขายบ้านใหม่เดือน ก.ค. +2.3% MoM (Vs เดือน มิ.ย. +17.3%) และพื้นที่อนุญาตให้ก่อสร้างเดือน ก.ค. +2.8% MoM (Vs เดือน มิ.ย. +3.5%) / Japan-ดัชนีความเชื่อมั่น Reuter Tankan Index เดือน ส.ค. คาด -32 (เดือน ก.ค. -44)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดร่วงต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1315-1331 จุด ก่อนฟื้นตัวในชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขายขึ้นมาปิดที่ระดับ 1320.91 จุด -6.14 จุด -0.46% วอลุ่ม 4.78 หมื่นล้านบาท กลุ่มการแพทย์ -1.3% ธนาคาร -1.26% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -0.93% โดยหุ้นบวก >4% TRUE AI MAJOR MEGA MORE HTC TVD DDD TEAMG JWD ส่วนหุ้นร่วง >4% STGT NER TASCO KCE ASIAN IIG RBF NEX CFRESH YGG THAI ALT

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ DJ -0.31% S&P500 +0.27% Nasdaq +1% นำลงโดยกลุ่มการเงิน กลุ่มสายการบินและกลุ่มอุตสาหกรรม เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ปิดผสมผสาน โดยตัวเลขยอดสร้างบ้านเดือน ส.ค. พุ่งขึ้น 6 จุด เป็น 78 จุด สูงสุดตั้งแต่ปี 1998 แต่ดัชนี Empire State Mfg Index เดือน ส.ค. ร่วงจาก 17.2 เป็น 3.7 ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดบวก DAX +0.15% CAC40 +0.18% FTSE +0.61% รับข่าวจีนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

+ น้ำมันดิบและทองคำปิดบวก: น้ำมันดิบปิดบวก WTI +USD0.88 ปิดที่ USD42.89/บาร์เรล Brent +USD0.57 ปิดที่ USD45.37/บาร์เรล รับข่าวจีนจองเรือบรรทุกน้ำมันไว้สำหรับการสั่งซื้อน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ 20 ล้านบาร์เรล ในเดือน ส.ค. และก.ย. ส่วน ทองคำกลับมาพุ่งแรง USD48.90 +2.51% ปิดที่ USD1,998.70/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ ปลอดภัย หลังจากภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความไม่แน่นอน

ประเด็นสาคัญ

- การเมือง: พรรคฝ่ายค้านเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 พร้อมจัดตั้ง สสร. ต่อประธานสภาฯ ชวน วานนี้ โดยประธานสภาฯ จะดาเนินการตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อที่ต้องมีส.ส. รวมกันอย่างน้อย 98 เสียง (หรือ 1 /5 ของส.ส. ทั้งหมด) ก่อนจะบรรจุเป็นระเบียบวาระประชุมภายใน 15 วัน

- ผลกระทบจาก XD Effect: คาดมีผลกระทบต่อดัชนีฯ วันนี้เพียงเล็กน้อย -0.01 จุด แต่จะมีผลวันพรุ่งนี้ -1.04 จุด จากการขึ้นเครื่องหมาย XD ของ ADVANC BH

- กลุ่มทีวีดิจิทัล: True Vision ขอให้ กสทช. ชะลอการใช้เกณฑ์จัดเรียงช่องทีวีดิจิทัลใหม่ออกไปก่อน จนกว่าศาลปกครองจะมีคำตัดสินถึงที่สุด

- Japan: รายงาน 2Q20 GDP ครั้งที่สองแย่กว่าคาด เป็น -7.8% QoQ (Vs คาด -7.6% QoQ และ 1Q20 -0.6% QoQ)

- ไทย: สภาพัฒน์รายงาน 2Q20 GDP ไทยหดตัวสูงสุดรอบ 22 ปี -12.2% YoY และปรับลดเป้าหมายเติบโตปี 2020E ลงเป็น -7.8% ถึง -7.3% (ค่ากลาง -7.5% จากเดิม -5.5%) ขณะที่ Krungthai COMPASS ปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2020-21E เป็น -9.1% และ +4.2% ตามลำดับ (จากเดิม -8.8% และ +6.1%)

+ USA: NAHB housing market index เดือน ส.ค. สูงกว่าคาดเป็น 78 ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน ธ.ค. 1998 (Vs คาด 73 และเดือน ก.ค. 72)

+ China: ธนาคารกลางจีนอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบการเงิน 7 แสนล้านหยวน เพื่อสนับสนุนสภาพคล่องระยะกลาง และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม 2.95% เป็นเดือนที่สี่ ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ +2.34%

แนะนำ ขายเมื่อรีบาวด์ เพื่อรอซื้อคืนที่แนวรับ (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BEM PSL MINT

หุ้นแนะนำเก็งกำไรวันนี้: ADVANC AOT CPALL RATCH PTL TACC TRUE

Derivatives: หาจังหวะเปิด Short S50U20 เมื่อดีดตัว (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)