เลือกเก็งกำไรรายตัว โดยคงมุมมองเพิ่มความระวัง SET Index ระยะสั้น

สศช.รายงาน GDP ไตรมาส 2/63 ที่ -12.2% (ใกล้เคียง Bloomberg concensus คาด -13%) โดยเป็นการปรับลดลงในเกือบทุกกิจกรรม โดยเฉพาะ การส่งออก (-28.3%), การลงทุน (-8.0%)  และการบริโภคเอกชน (-6.6%) โดยเติบโคเพียงการใช้จ่ายภาครัฐ (+1.4%) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการหดตัวของภาคผลิตและบริการ เนื่องมาจากสถานการณ์โควิด ทั้งนี้ตัวเลข GDP ที่อ่อนแอ ส่งผลลบต่อกลุ่มที่ผลประกอบการมีความสัมพันธ์กับ GDP สูง อาทิ ธนาคาร การเงิน รวมถึงการบริโภคอย่างค้าปลีก

ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน น่าจะเลวร้ายลงจนใกล้ช่วงเลือกตั้งปธน. ล่าสุดสหรัฐฯ เพิ่มระดับกีดกันหัวเหว่ย โดยปิดกั้นการเข้าถึงชิปและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเพิ่มบริษัทในเครือลงในบัญชีดำ เราคาดความสัมพันธ์สหรัฐฯ จีนจะยังมีความเสี่ยงที่จะเลวร้ายลงอย่างน้อยจนใกล้การเลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐฯ ในช่วง พ.ย.ซึ่งทำให้

ยังประเมินปัจจัยภายนอกมีโอกาสทำให้ภาพการลงทุนระยะสั้นผันผวน 1) ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่มีแนวโน้มสูงขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐฯ ล่าสุดยกเลิกการหารือเกี่ยวกับประชุมติดตามความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าออกไปอย่างไม่มีกำหนด 2) แผนการออกพันธบัตรสหรัฐฯ ในช่วง ส.ค.-ต.ค.จำนวน 132 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับจากสงครามโลก ขณะที่ความต้องการประมูล (bid-to-cover ratio) อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรมีโอกาสดีดตัวขึ้น และ 3) ค่าเงินสหรัฐฯ มีความเสี่ยงแข็งค่าขึ้นจากระดับขายมากเกิน ซึ่งมีโอกาสกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้น

Theme การลงทุนที่น่าสนใจ เก็งกำไรรายตัว ในกลุ่มผลประกอบการดี ได้แก่ 1) กลุ่มอาหาร CPF, TU 2) ประกันภัย TIP, THRE 3) หุ้นปลอดภัย /มั่งคง ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, BCH, TPCH, WHAUP, EASTW 4) หุ้นฟื้นจากจุดต่ำสุด PTTGC, PTT 5) อื่นๆ AP, AI, CKP, STA, STGT // หุ้นที่ต้องระวัง 1) การเงิน SAWAD, MTC, KTC, AEONTS

ภาพรวมกลยุทธ์ ภาพรวมหุ้นโลกอาจเผชิญการปรับฐานจาก ความน่าสนใจลงทุนในหุ้น (EYG) ที่หดตัวลง การเก็งกำไรยังควรระวังความผันผวนระยะสั้นจากทิศทางค่าเงินสหรัฐฯ ที่มีโอกาสแข็งค่าขึ้น เก็งกำไรสั้นเลือก defensive (สื่อสารและอาหาร) // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร STGT*, CPF, ADVANC / ขายชอร์ต SAWAD (เป้า 42 ตัดขาดทุน 51.50)

แนวรับ 1,306 จุด / แนวต้าน : 1,330 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

ลุ้นหุ้นแบงค์จ่ายปันผลสิ้นปี – แบงค์ชาติเผยเตรียมรอผลทดสอบภาวะวิกฤตของธนาคารพาณิชย์ (Stress test) ที่จะออกมาช่วงต.คนี้ก่อนพิจารณาไฟเขียวจ่ายปันผล โดยเงินกองทุนช่วง 2 ปีหน้าส่วนใหญ่อยู่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ

สอนเชื่อแบงก์โต 5% ในไตรมาส 2/63 –เพิ่มขึ้นมาทีระดับ 5% yoy และ 4.1% qoq โดยสินเชื่อธุรกิจขยายตัว 5.1% ตามการใช้สินเชื่อของภาครัฐและธุรกิจขนาดใหญ่, สินเชื่อ SMEs ได้รับการสนับสนุนจากมาตรการดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) เป็นผลให้หดตัวในอัตราที่ลดลง, ขณะที่ สินเชื่ออุปโภคบริโภคขยายตัว 4.8%

แก้รัฐธรรมนูญ – ฝ่ายค้ายรวมตัวยื่นแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 เปิดช่องตั้ง ส.ส.ร. โดยประธานสภาตรวจสอบความถูกต้องและเตรียมส่งเข้าบรรจุเป็นวาระประชุมใน 15 วัน

ธนาคาร – ธปท.รอพิจารณาผลทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) โดยหากเงินกองทุนช่วง 2 ปีข้างหน้า สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ 12% พร้อมอนุญาตให้จ่ายปันผลได้

THAI – ศาลนัดไต่สวนฟื้นฟูการบินไทยอีก 2 วันเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการและการแต้งตั้งผู้ทำแผน

ถุงมือยาง – ราคาหุ้นบริษัทถุงมือในมาเลเซียเช้านี้ กลับมาฟื้นตัวขึ้นโดดเด่นราว 6-9% เป็ยปัจจัยบวกต่อการเก็งกำไร STA หรือ STGT

ค่าระวางเรือ – ดัชนี BDI index วันที่ 17 ส.ค. อยู่ที่ระดับ 1,598 เพิ่มขึ้น +0.19%

ประเด็นติดตาม: 19 ส.ค. – EU CPI เดือน ก.ค./ 21 ส.ค. – EU manufacturing PMI เดือน ส.ค.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)