'คำนูณ' ย้ำ แก้ รธน.ได้ 84 ส.ว.ต้องเอาด้วย

"คำนูณ" ย้ำ จะแก้ รธน. ต้องใช้เสียงวุฒิสภาไม่น้อยกว่า 84 เสียง เชื่อ ส.ว.พร้อมลงมติตามผลประโยชน์ประชาชน แต่ฟันธงยังไม่ได้ เพราะยังไม่เห็นร่างแก้ไข รธน. ที่เสนอมา แนะควรเปิดอภิปรายทั่วไปหารือทางออกแก้รธน.-ความขัดแย้งทางการเมือง

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 63 นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 269 ถึง 272 เพื่อตัด ส.ว.ตามบทเฉพาะกาล 250 คนออก ว่า สมาชิกวุฒิสภาทุกคนเข้ามาเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ แต่แน่นอนว่าเมื่อมีเสียงเรียกร้องจากประชาชน ก็ต้องรับฟังแต่ในขณะนี้ ก็ต้องให้เกิดความชัดเจนขึ้นมาว่า ไม่ว่าจะชอบหรือจะชังรัฐธรรมนูญปี 2560 หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า หากจะแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 ตามระบบที่มีอยู่ จำเป็นจะต้องมีเสียงของสมาชิกวุฒิสภาอย่างน้อย 1 ใน 3 คือ 84 คนทั้งในวาระที่ 1 และวาระที่ 3 ถ้าจะเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญไปอย่างไร จะตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. หรือไม่ หรือจะแก้ไขรายประเด็น หรือจะไม่ชอบวุฒิสภายังไงก็ตามแต่ หากแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีเสียงสมาชิกวุฒิสภา 84 คน ไม่เช่นนั้นก็มีแค่ 2 วิธีคือ การรัฐประหารอีกครั้ง เพื่อยกเลิกรัฐธรรมนูญแล้วร่างกันใหม่ หรือไม่เช่นนั้นก็เกิดการปฏิวัติประชาชนเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ซึ่งทั้ง 2 ทางมีโอกาสที่จะนำไปสู่สงครามกลางเมืองทั้งสิ้น จึงเห็นควรว่าให้ใช้เวทีรัฐสภาเป็นที่แก้ปัญหา

นายคำนูณ เชื่อว่า สมาชิกวุฒิสภาทุกคนพร้อมลงมติ ตามผลประโยชน์ของประชาชนอย่างรอบคอบและรอบด้าน แต่ขณะนี้จะให้แต่ละคนบอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะยังไม่เห็นโจทก์หรือร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ซึ่งวุฒิสภาก็พร้อมติดตามอย่างใกล้ชิด และหากมีร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ วุฒิสภาก็พร้อมนำมาศึกษาในคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา หรือสมาชิกวุฒิสภาแต่ละคนก็จะนำมาศึกษา เพื่อตัดสินใจประกอบการลงมติ

นายคำนูณ กล่าวว่า ความคืบหน้าเบื้องต้นจะอยู่ที่สัปดาห์นี้ ที่ต้องดูว่าพรรคฝ่ายค้านจะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ และดูท่าทีของฝ่ายรัฐบาลรวมถึงคณะกรรมาธิการวิสามัญที่ศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งมีกำหนดจะรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 9 กันยายน และถ้ามีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจากพรรคฝ่ายค้านเข้ามา คณะรัฐมนตรีจะต้องเสนอร่างของคณะรัฐมนตรีเข้ามาประกบเพื่อพิจารณาร่วมกันด้วย ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นโจทก์ก็จะชัดเจนมากขึ้น ว่ามีร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้งหมดกี่ร่าง รวมถึงร่างที่ประชาชนจะนำเสนอเข้ามาด้วย ซึ่งจะได้นำมาศึกษาและตัดสินใจกัน

นายคำนูณ กล่าวด้วยว่า ต้องเข้าใจว่าขณะนี้สมาชิกวุฒิสภาไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณา ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจำเป็นจะต้องมีองค์ประกอบของสมาชิกวุฒิสภาถึง 84 คน ซึ่งตนเองเคยเรียกร้องตั้งแต่ปีที่แล้ว และล่าสุดยังเสนออยู่ว่าสมควรจะมีเวทีให้ตัวแทนของสมาชิกวุฒิสภาเข้าไปร่วมหารือด้วย ซึ่งขณะนี้ก็ยังสามารถทำได้ และไม่ใช่เฉพาะแค่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่รวมถึงความขัดแย้งทางการเมืองในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ก็สามารถทำได้โดยการเปิดอภิปรายทั่วไปในรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 ซึ่งก็สุดแท้แต่นายกรัฐมนตรี แต่ทางวุฒิสภาก็ตอบได้เพียงเจตนาที่พร้อมจะให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ แม้ จะเป็นเรื่องที่กระทบต่อสถานภาพของวุฒิสภาเอง โดยเชื่อว่า สมาชิกวุฒิสภาทุกคนไม่ได้ยึดติดในจุดนี้ เพียงแต่จะให้ตอบชัดเจนตอนนี้ก็ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะยังไม่เห็นตัวร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ