'เอ็นทีที' ปักธง 'ทรานส์ฟอร์ม' จัดดิจิทัลโซลูชั่นแก้วิกฤติลูกค้า

'เอ็นทีที' ปักธง 'ทรานส์ฟอร์ม' จัดดิจิทัลโซลูชั่นแก้วิกฤติลูกค้า

ปีหน้า เชื่อว่าองค์กรจะกลับมาลงทุนไอทีเต็มที่ เป็นการมองระยะยาวมุ่งเน้นทรานฟอร์มอย่างเต็มตัว

ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าทุกมิติ

“เราเน้นสนับสนุนองค์กรธุรกิจทุกอุตสาหกรรม ที่ต้องการศักยภาพทางด้านเทคโนโลยีทุกมิติ วิกฤติโควิดเป็นสิ่งที่ทำให้ เอ็นทีที เข้าไปช่วยลูกค้าให้ดำเนินธุรกิจได้ต่อ ในทางเทคนิคแล้วไม่ใช่เรื่องง่ายที่องค์กรขนาดใหญ่ต้องพร้อมรองรับการเชื่อมต่อจากทั้งพนักงานที่ทำงานนอกสถานที่ และเชื่อมต่อลูกค้าจำนวนมาก หากผู้ช่วยที่มีศักยภาพเข้ามาดูแลจะทำให้องค์กรเดินหน้ามุ่งเน้นธุรกิจได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องระบบหลังบ้าน" 

สุทัศน์ กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจสำคัญในช่วงทีผ่านมา คือ การทยอยออกเยี่ยมลูกค้าองค์กรต่างๆ พร้อมทั้งวางแผน มองไปข้างหน้าว่าจะปรับการลงทุนอย่างไร รูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม หากมองภาพรวมครึ่งปีหลัง เชื่อว่าธุรกิจอาจยังไม่ฟื้นเต็มที่ การลงทุนไอทีใหม่ๆ ระบบใหญ่ๆ ไม่ค่อยชัด เพราะต้องอาศัยอีกหลายปัจจัยสนับสนุน แต่หลายบริษัทมีแผนปรับการลงทุน เพื่อเดินต่อให้ได้ในปีนี้ ปีหน้าเชื่อว่าองค์กรจะกลับมาลงทุนไอทีอย่างเต็มที่ และเป็นการมองระยะยาว มุ่งเน้นการทรานฟอร์มอย่างเต็มตัว

โลกดิจิทัลที่ทุกอย่างขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว ดิจิทัล ดิสรัปชั่น ยังคงเป็นความท้าทายขององค์กร และจะรุนแรงขึ้นในอนาคต เพราะมีเทคโนโลยีใหม่เตรียมออกสู่ตลาดมากมาย โดยเฉพาะเทคโนโลยี 5จี ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการนำไปสู่โลกดิจิทัล เมื่อผสานการทำงานร่วมกับคลาวด์คอมพิวติ้ง ยิ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

ชู คลาวด์ ไอโอที ทรานส์ฟอร์มองค์กร

"ไดเรคชั่นของเอ็นทีทีในปีหน้า เราพร้อมสนับสนุนการทำงานของลูกค้าผ่านโซลูชั่นที่หลากหลาย หลักๆ คือ เรื่องคลาวด์ เพราะเห็นชัดว่า ช่วยเรื่องการลงทุน และฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ ดูจากเวิร์คฟรอมโฮม มันเห็นผล คนยอมรับว่าฟังก์ชั่นดีพอ คลาวด์ก็จะมีหลากหลาย เป็นไฮบริดคลาวด์ ซึ่งคลาวด์ของเอ็นทีทีเราลงทุนในไทยให้ความเร็วที่ดี ปลอดภัยสูง" 

ปัจจุบันการใช้คลาวด์คอมพิวติ้งในไทยถือว่า อยู่ในช่วงเริ่มต้น แม้องค์กรธุรกิจจะเริ่มให้ความสำคัญในเทคโนโลยีนี้มากขึ้น แต่หากเจาะลึกไปที่ไอทีเวิร์คโหลดที่ย้ายขึ้นคลาวด์ถือว่ายังน้อย คาดว่ายังไม่ถึง 20% ของไอทีเวิร์คโหลดในองค์กร ยังมีเวิร์คโหลดทั้งในปัจจุบันและอนาคตอีกมหาศาลที่สามารถขึ้นคลาวด์ได้

อีกสิ่งที่เอ็นทีทีจะโฟกัสมากขึ้นในปีหน้า คือ ระบบเอสเอพี ตอบโจทย์การทรานส์ฟอร์ม ระบบคอนแทคเซ็นเตอร์เน้นภาคบริการ ซึ่งจะอยู่บนคลาวด์ทั้งหมด บริการดิจิทัล เวิร์คเพลส และอีกหลายบริการที่เน้น เรื่องการทรานส์ฟอร์มเป็นหลัก 

เมื่อถามภาพรวมการลงทุนด้านไอที ของภาคธุรกิจขนาดใหญ่ เขาให้ความเห็นว่า กลุ่มธนาคาร ที่ผ่านมาได้มีการทรานส์ฟอร์มไปมากแล้ว ปัจจุบันเข้าสู่ระบบโมบายแบงกิ้งเรียบร้อย แต่หลังจากนี้ธนาคารจะลงทุนระบบซิเคียวริตี้เพิ่มขึ้น เพราะสิ่งสำคัญของเซกเมนท์นี้ คือ ข้อมูล ผิดพลาดไม่ได้ ซึ่งเอ็นทีทีมีโซลูชั่นครบวงจรที่จะให้บริการ

สื่อสาร-รีเทล-เฮลธ์แคร์ลงทุนสูง

กลุ่มเซอร์วิส โพรวายเดอร์ บางส่วนจะเติบโต เช่นการลงทุนเรื่อง 5จี แบนด์วิธสื่อสารจะเติบโตอย่างมาก รวมถึงระบบที่เกี่ยวเนื่องช่องทางอินเทอร์เน็ตมีการขยาย จะเห็นการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างมีนัยสำคัญ ถัดมาคือ กลุ่มรีเทล เฮลธ์แคร์ กลุ่มนี้จะทรานส์ฟอร์มรูปแบบการใช้เทคโนโลยีอย่างมาก เป็นการทรานส์ฟอร์มทั้งระยะสั้น และระยะยาว 

กลุ่มที่จะกระทบหนัก คือ กลุ่มแมนูแฟคเจอริ่ง การผลิตรถยนต์ เพราะเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว เชื่อว่าดีมานด์ยังน้อย กลุ่มนี้จะลงทุนค่อนข้างช้า แต่จะลงทุนแน่ในอนาคต โดยจะปรับเปลี่ยนสู่ออโตเมชั่นอย่างเต็มรูปแบบ ระบบอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ หรือไอโอทีในโรงงานจะมาเต็ม แต่การลงทุนต้องใช้เวลา 

"เป้าหมายเอ็นทีที ต้องบอกว่า เราพร้อมมาก เราเครื่องร้อน พร้อมวิ่งนำเสนอโซลูชั่นให้ลูกค้า เราอยากเป็นลีดเดอร์ด้านไอที เซอร์วิส แม้ในตลาดรวมๆ อาจยังกระทบบ้างแต่ด้วยเรามีพอร์ตที่หลากหลาย เราเลือกทำตลาดในส่วนที่เราโต เช่น คลาวด์ ไอโอที คลาวด์เรามีตั้งแต่ดาต้าเซ็นเตอร์ คลาวด์ที่เวิร์คกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นไฮเปอร์สเกล เรามีบุคลลากรพร้อม มีระบบการเงินที่ช่วยสนับสนุนลูกค้าได้ ทั้งหมดนี้ คือ เป็นจุดแข็งของเรา"