รัก ‘แม่’ หลายมุม เปิดใจ 'ตู่-นันทิดา' - 'เดย์-ฟรีแมน'

 รัก ‘แม่’ หลายมุม เปิดใจ 'ตู่-นันทิดา' - 'เดย์-ฟรีแมน'

รักไม่มีเงื่อนไขและไม่มีวันหมดอายุ มุมมองความรักของ "แม่" บนความเหมือนและแตกต่างของคุณแม่ยังสวย "ตู่-นันทิดา, เดย์-ฟรีแมน, สู่ ญาณี"

บรรดาความรักทั้งหลายในโลกนี้ ความรักของแม่ คือสิ่งพิเศษที่สุดที่ลูกทุกคนจะได้รับ เป็นความรักที่ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดวัย ไม่ว่าลูกจะโตมาเป็นอะไรหรืออยู่ในวัยไหน ลูกก็ยังเป็นเด็กน้อยของแม่อยู่เสมอ ความรักครั้งแรกที่ทุกคนได้รับในชีวิต เป็นพลังส่งต่อให้เรามีความรักความปรารถนาดีแก่โลกและสังคมต่อไป ซึ่งในความเป็นแม่นั้น มีหลากหลายมิติ แตกต่างกันไปในรายละเอียด

159751324091

นันทิดา แก้วบัวสาย กับ ลูกสาว

  • กว่าจะมาเป็นแม่ 

คำว่า ‘แม่’ หรือ ‘ความเป็นแม่’ บางคนรู้สึกเมื่อตอนตั้งท้อง บางคนรู้สึกเมื่อตอนกำลังคลอด แต่สำหรับ แม่ตู่ - นันทิดา แก้วบัวสาย ศิลปินนักร้อง ความเป็นแม่บานสะพรั่งในวันที่ให้กำเนิดลูกสาว

“วันที่เขาลืมตาดูโลก เป็นวันที่พี่รู้สึกว่าบ้านหลังเดียวกันแต่ทำไมฉันมีความรู้สึกแบบนี้ แล้วก็มีความรู้สึกว่าเมื่อไรที่ลูกต้องการสิ่งที่พึ่งพาได้หรือเมื่อไม่เข้าใจอะไรในชีวิต แม่จะอยู่ตรงนี้เป็นคำตอบให้หนูเสมอ” นันทิดากล่าวถึง ลูกสาว (เพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม) ในงาน ‘กลับสู่ความสัมพันธ์ที่สำคัญของชีวิต : Reconnect to Mothers' Love’ จัดโดย มูลนิธิพิพิธภัณฑ์แม่ เพจสายสะดือ และ สสส.ในงานเปิดตัวเทศกาล 'สิงหามาตา 2563'

ส่วน แม่สู่ ญาณี รัชต์บริรักษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทาง ปัญญา สสส. บอกว่า ความรักคุณภาพแบบนี้มีอยู่ในคนทุกคน เป็นศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่และพร้อมที่จะระเบิดพลังนี้ออกมา พลังความรักของแม่มีอยู่ทุกอณู มีคุณค่าลึกซึ้งถึง 5 ข้อ ข้อแรก มีความเมตตากรุณา เสียสละ อยากให้ลูกมีความสุข เมื่อเขามีความทุกข์ก็อยากให้เขาพ้นทุกข์ แม่พร้อมจะก้าวไปยืนอยู่ข้างเขาเสียสละได้ทุกอย่าง

ข้อสอง เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ให้มองไปที่แม่จะพบความรักที่แท้จริงที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา ไม่มีความเห็นแก่ตัวหรือผลประโยชน์แฝงอยู่

ข้อสาม การรับฟังแบบไม่ตัดสิน แม่เป็นจุดสุดท้ายที่ลูกจะมาระบายให้ฟัง เป็นช่วงเวลาคุณภาพที่เราจะใช้กับเขาและตลอดชีวิตไม่ว่าลูกจะโตขึ้นหรือแก่ตัวไป แม่ยืนอยู่ตรงนี้เสมอ

ข้อสี่ เป็นพลังซ่อนเร้น ทะลายข้อจำกัดหลายๆ ด้าน ที่แม่ก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะทำได้ มีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหลายคนทำเพื่อลูกได้อย่างน่าเหลือเชื่อ หรือคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงดูเด็กพิเศษซึ่งต้องใช้พลังมหาศาลฟื้นฟูให้เขาเติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุข

และข้อสุดท้าย เป็น Universal Love ความรักที่ไม่มีข้อจำกัดและส่งไปถึงคนที่ไม่ใช่ลูก ไปถึงเด็กๆ คนอื่นในสังคมไทยด้วย

ส่วนมากเมื่อพูดถึงคำว่าแม่ คำว่าเพศหญิงจะปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน แต่ในความเป็นจริงแล้วความเป็นแม่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ ขึ้นอยู่กับการกระทำมากกว่า แม่เดย์ ฟรีแมน (อารยาอิสรีย์ เอกอุชุกร) ศิลปินดารา ผู้รับลูกชายของน้องสาวมาเลี้ยงดูเป็นลูกตั้งแต่อายุได้ 6 เดือน กล่าวว่า

”เราเป็นแม่ที่แปลกแยกไปจากแม่ท่านอื่น เรามีความสำคัญไม่พอ มีความยิ่งใหญ่ไม่พอกับแม่ทุกท่านที่นั่งอยู่ในที่นี้ เพราะว่าคำว่าแม่เกินกว่าคำที่จะบรรยาย แม่ไม่ใช่คำนามแต่คือคำกริยา ไม่ใช่อยู่ดีๆ แล้วเขาตั้งให้เป็นแม่ได้ เราเป็นนักแสดงต่อให้แสดงบทบาทดีมากแค่ไหน ก็คงไม่ได้รับเลือกให้ได้รับรางวัลใดรางวัลหนึ่งในรูปแบบเพศสภาพแบบเดย์ เพราะเขาจะงงว่าเธอจะเป็นนักแสดงสมทบฝ่ายหญิงหรือว่าฝ่ายชาย เขาตัดสินใจให้ไม่ได้ก็ไม่ให้รางวัลถึงจะเล่นดี แต่พอมีหน่วยงานนี้บอกว่าให้เราเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการแม่ ในส่วนของพิพิธภัณฑ์แม่ เรามีความรู้สึกว่าชีวิตนี้เราจะต้องการอะไรอีก ไม่ต้องการรางวัลยิ่งใหญ่อะไรแล้ว แค่คำนี้เราก็รู้สึกว่าสิ่งที่เราทำมาทั้งชีวิตมันเป็นผล และไม่ใช่ผลของเราคนเดียว ยังมีแม่แบบเดย์อีกเยอะมากเพียงแต่ว่าเขาไม่มีโอกาสได้พูดเท่านั้นเอง

แม่คือการกระทำในสิ่งไหนสิ่งหนึ่งให้กับใครที่รัก มือของเขาที่จับนิ้วเราอยู่อย่างนี้กำไว้แน่นแล้วเขาหลับ มันยิ่งใหญ่ มันมีค่ามหาศาล คุณโชคดีที่สุดแล้วที่เกิดมาทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ อยู่ที่ว่า คุณจะทำมันสมบูรณ์หรือเปล่า เท่านั้นเอง”

159751340674

ญาณี รัตช์บริรักษ์

  • ความรักของแม่

คุณแม่มีหลากหลายแบบ ความรักของแม่แต่ละคนก็แตกต่างกันไป ความรักของแม่ตู่กับน้องเพลงเป็นความรักแบบอบอุ่นใกล้ชิดแน่นแฟ้นในแบบอย่างที่แม่ตู่เคยได้รับมา

นันทิดาบอกว่า ความรักของแม่เป็นความรักที่บริสุทธิ์ เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ทุกวินาที ทุกลมหายใจ มอบให้แก่ลูก ถึงเธอจะมีระยะห่างให้ลูก แต่เมื่อไรที่ลูกต้องการเธอ เธอจะอยู่ตรงนั้นเสมอ ทุกวันนี้เมื่อได้ย้อนเวลากลับไปรับรู้ความรักความรู้สึกที่ดีทุกอย่างจากคุณพ่อคุณแม่ที่ได้เก็บอัลบั้มและ vdo ต่างๆ ที่คุณพ่อของเธอเป็นคนถ่ายภาพ และมีคุณแม่เป็นคนเขียนอธิบายความรู้สึกในแต่ละเหตุการณ์ เธอก็ได้ทำสิ่งเหล่านั้นให้แก่ลูกเช่นกัน

"วันหนึ่งถ้าเขาได้มาอ่าน เหมือนเราได้เปิดอ่านที่พ่อและแม่ทำไว้ให้ อัลบั้มของลูกตั้งแต่แรกเกิดมาจนถึงฟันซี่แรกที่หลุด ดอกไม้ดอกแรกที่ลูกจับ เสียงของลูกที่พูดคำว่าแม่ นั่นคือความรักของตู่ที่เก็บไว้เป็นภาพเป็นมุมแบบนี้ค่ะ วันหนึ่งเราอาจจะสูญเสียความจำไป อาจจะเล่าให้ลูกฟังไม่ได้ โมเมนต์ของลูกอยู่ในความทรงจำของเราทั้งหมด ไม่ต้องพูดลูกมาดูเองแล้วกันลูก”

ส่วนความรักแบบไม่มีเงื่อนไขของแม่เดย์กับน้องอ่ำ นั้นก่อเกิดจากการที่เธอเตรียมตัวและศึกษาจากแม่ๆ ท่านอื่น และแม่ของตัวเอง ก่อนจะมาเป็นแม่เต็มตัวอย่างแท้จริง นอกจากรักแบบไม่มีเงื่อนไขแล้ว เธอยังไม่คาดหวังด้วย จากประสบการณ์ที่เคยได้เล่นละครเวทีเรื่องหนึ่ง บทบาทครั้งนั้นเป็นเพศทางเลือกที่รับเด็กมาเลี้ยง แม่ (ในละครเวที) ก็ด่าเธอว่า “ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด ขนาดฉันเป็นแม่ของแก แม่ที่คลอดแกออกมาจริงๆ แกยังเป็นแบบนี้เลย แล้วแกไปเอาใครมาเลี้ยง แล้วแกจะเลี้ยงเด็กคนนั้นอย่างไร แล้วมีวิธีเลี้ยงอย่างไร ขนาดฉันเองเลี้ยงแกแกยังเป็นแบบนี้เลย”

ในบทนั้นสะดุดใจเธอมาก คำตอบในบทละครคือ “หนูจะเลี้ยงเด็กคนนี้ เรียนรู้จากแม่ที่เลี้ยงหนูมา แต่ทำตรงข้ามทั้งหมด” นั่นเป็นประโยคที่ทำให้เธอกลับมาคิดทบทวนว่าคืออะไร แล้วจะต้องทำอย่างไร ในความคิดของเดย์คือเลี้ยงด้วยความรักและความจริง เธอถูกเลี้ยงมาในยุคของเด็กชาวบ้าน พ่อทำก่อสร้าง แม่หาบของขาย ไม่มีการโอบกอดลูก จนเธอเคยคิดว่าทำไมไม่เหมือนบ้านอื่น แต่พอเติบโตขึ้นจึงเข้าใจว่าเมื่อ 40-50 ปีก่อน มีความเชื่อกันว่าถ้าโอ๋เด็กแล้วเด็กจะไม่โต แต่ในความเป็นจริง ‘การกอด’ คือการมอบความรักที่เด็กต้องการ

วันที่เดย์มีความสุขที่สุดคือวันที่ลูกเรียกแม่ วันนั้นเธอไปตากผ้าที่ระเบียงชั้นสองแล้วกลับลงมาชั้นล่าง ปรากฏว่าลูกหายไป คลานขึ้นบันไดไปชั้นสามเพื่อไปหาแม่ เมื่อได้เจอกัน “คำแรกที่เรากอดเขาอุ้มเขาไว้คือ ‘แม่’ นี่คือสิ่งที่เด็กต้องการคือความปลอดภัย ความอบอุ่น อ้อมกอด เวลาลูกหัดพูด เราจะตอบคำถามของเขาทุกคำ แม้บางคำถามจะตอบไม่ได้ บอกให้เขารู้ว่า แม่รักหนูนะ หนูต้องทำตัวไม่ใช่ให้แม่รักคนเดียว ต้องทำตัวให้คนอื่นรักหนูเหมือนที่แม่รักหนูด้วย ลูกก็ถามว่าความรักหน้าตามันเป็นอย่างไร เราก็คว้าตัวมากอด เขาก็ยิ้่มแล้วพยักหน้า รู้แล้วแม่ มันคือสิ่งที่เราเรียนรู้ไปกับลูก เวลาอยู่กับลูก เดย์จะสตรอง เข้มแข็ง แต่เวลาไม่มีลูก นี่รู้เลยว่าสิ่งที่เป็นความเข้มแข็งความแข็งแกร่งไม่ได้อยู่กับเราตอนนี้ แต่ถ้าลูกอยู่กับเราปุ๊บ เฮ้ย มาเลย อะไรก็ได้ฉันไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น วิธีเลี้ยงลูกของเดย์คือความรักและความจริงค่ะ”

159751362538

เดย์ ฟรีแมน (อารยาอิสรีย์ เอกอุชุกร) กับ ลูกชาย

  • ลึกซึ้งถึงคำว่าแม่ 

แม่ไม่ได้เป็นฝ่ายให้แก่ลูกฝ่ายเดียว ยังเป็นฝ่ายรับและเรียนรู้บทเรียนใหม่ๆ ที่ลูกส่งมาให้อีกด้วย ดังเช่น แม่ตู่กับน้องเพลง ลูกสาวทำให้เธอได้ทำหลายๆ อย่างที่ไม่เคยทำ

“หลายๆ อย่างที่เราไม่เคยทำในชีวิตก็ทำได้เพื่อลูก สิ่งที่ได้รับจากลูกมีมากมาย เราเรียนรู้ไปกับลูก ได้คำตอบมาอย่างหนึ่งว่า ความรักคือปาฏิหาริย์ เป็นพลังที่จุดให้เราทำอะไรได้ โดยมหัศจรรย์จริงๆ เรารับฟังลูก ลูกรับฟังเรา รักนี้สร้างปาฎิหาริย์บนโลกใบนี้ได้ทุกอย่าง”

สำหรับแม่สู่นั้น ลูกของเธอทำให้เธอมีพลังพิเศษขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ เธอมีลูกสองคน 9 ขวบ กับ 11 ขวบ เธอเล่าว่าลูกคนแรกคลอดก่อนกำหนด ไม่ถึง 8 เดือน ทั้งเธอและลูกอยู่ในสภาพไม่สู้ดีนัก ขณะที่อยู่บนเตียงคลอด เธอถามพยาบาลว่า “น้ำคร่ำใช่ไหมคะตรงนั้น” คำตอบจากพยาบาลคือ “เลือด” นั่นเป็นวินาทีความเป็นความตาย ลูกเธอคลอดออกมามีน้ำหนักเพียง 1.7 กิโล ทันทีที่คลอดต้องรีบนำไปเข้าตู้อบ อยู่ในตู้อบนานนับเดือน ช่วงเวลานั้นเธอบอกว่าไม่มีน้ำตาสักหยด เป็นพลังข้างในพร้อมระเบิดเพื่อลูก พอไปดูลูก ก็ส่งต่อพลังให้ลูกว่าต้องแข็งแรง ในตู้อบนั้นมีลูกของเธอถีบอยู่คนเดียว เลยรู้ว่านั่นคือพลัง

"แม่ต้องแข็งแกร่งก่อนถึงจะพาลูกไปเติบโตได้” แม่สู่กล่าว

ความรักที่แม่มีต่อลูก เป็นความรักที่ขยายใจผ่านการฝึกฝน ทุกขณะอารมณ์ทั้งตอนโกรธ ตอนดีใจ อย่างแม่เดย์มักได้ยินคำพูดว่า เด็กคนนี้โชคดีนะ ได้เดย์เอาไปเลี้ยง แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย

“เดย์โชคดีต่างหากที่ได้เป็นแม่ ได้โอกาสเลี้ยงเด็กคนนี้ เราเจอคำถามนี้มาตลอด เกิดมาแบบนี้เกิดมาทำไม เป็นผู้ชายดีๆ ไม่ชอบ เสียชาติเกิดหรือเปล่า เดย์ก็หาคำตอบให้ตัวเองว่า ลูกคือคำตอบของเรา เราเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ของแม่ ไม่ใช่ผู้ที่แค่คลอดออกมาอย่างเดียว นั่น 50 เปอร์เซ็นต์ อีก 50 เปอร์เซ็นต์เลี้ยงดูอย่างไรให้เด็กคนนี้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ส่งต่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม เราเลี้ยงลูกให้เขาโตขึ้นมามีสำนึกความเป็นมนุษย์ ไม่ได้คิดว่าเขาจะต้องกลับมาเลี้ยงเราตอนแก่ ไม่เคยคาดหวังแบบนั้น แต่คาดหวังว่าเขาจะกลับไปดูแลคนที่ต้องการความช่วยเหลือหรือให้โอกาสอย่างที่เขาเคยได้รับ นั่นคือสิ่งที่เดย์ปลูกฝัง”

แล้วเธอยังบอกความจริงแก่ลูกว่า แม่ที่แท้จริงรักลูกมาก ตั้งท้องเสี่ยงชีวิตคลอดแล้วเอามาให้แม่คนนี้เลี้ยงเพราะรู้ว่าลูกจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าที่ตัวเองเลี้ยงดู เวลาไปโรงเรียนก็มีครูเป็นแม่อีกคนหนึ่ง คอยดูแลให้ความรัก ทว่าปัญหานั้นกลับมาเกิดกับแม่เดย์เสียเอง ด้วยคำถามที่เจอเสมอว่า “เป็นแบบนี้แล้วไม่กลัวเด็กมีปัญหาหรือ"

"เดย์จะบอกว่าเราควรจะแก้ปัญหาแรกก่อนดีไหม ปัญหาแรกคือเด็กไม่มีคนเลี้ยงดูแล แล้วจะปล่อยไว้อย่างนั้นหรือ มาคิดไปว่าเด็กโตขึ้นจะมีปัญหา แต่เด็กจะโตหรือเปล่าถ้าไม่มีคนดูแล เราค่อยๆ แก้ปัญหากันไปได้ คิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เด็กโตขึ้นไปแล้วมีปัญหา เราเป็นคน เรามีความคิด เราเกิดมาเพื่อแก้ปัญหา ไม่ได้เกิดมาเพื่อถามอย่างเดียว แล้วเราก็ต้องตอบลูกให้ได้ทุกคำถาม ลูกก็จะไม่มีคำถามที่ติดอยู่ในหัว เขาก็เข้าใจว่า ทำไมเราถึงขาดเขาไม่ได้ ทำไมเขาถึงมีความสำคัญกับเรา แล้วเขาก็คือพลเมืองคุณภาพที่จะทำประโยชน์ต่อไปในสังคม”

ความรักของแม่คือต้นแบบของความรักทุกอย่างบนโลกนี้ ถ้าความรักนี้กระจายไปเป็นความเข้มแข็งของครอบครัวของสังคม ถึงแม้ว่าสังคมจะวุ่นวายอย่างไร ความรักนี้ก็จะช่วยเยียวยา เชื่อมโยงโลกทั้งใบ ทำให้อนาคตของเราจะดำรงสืบต่อไปได้อย่างสงบสุข