‘สายการบิน’งบครึ่งหลังส่อโคม่า โบรก ชี้ ขาดทุนใกล้เคียง 6เดือนแรก

‘สายการบิน’งบครึ่งหลังส่อโคม่า โบรก ชี้ ขาดทุนใกล้เคียง 6เดือนแรก

โบรกชี้ “หุ้นสายการบิน” ครึ่งปีหลังยังคงขาดทุนหนัก แม้เริ่มบินเส้นทางในประเทศได้แต่เป็นลักษณะค่อยฟื้นตัว-รายได้ต่อคนของผู้สารในประเทศยังต่ำกว่าผู้โดยสายต่างประเทศ ประเมิน AAVปีนี้จ่อขาดทุน 3.76 พันล้าน BA ติดลบหนัก

หุ้นสายการบินเริ่มทยอยประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2563 ซึ่งมีผลขาดทุนเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาด เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ที่ต้องหยุดบินทั้งเส้นทางในประเทศและระหว่างประเทศตั้งแต่ 3 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา

สำหรับหุ้นสายการบินที่แจ้งงบไตรมาส 2 ปีนี้ ออกมาแล้วคือ บมจ.การบินไทย (THAI) และบมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) พบขาดทุนรวมกัน 6,481.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุน 7,366.28 ล้านบาท  ขณะที่ครึ่งปีแรก 2563 ขาดทุนรวม 29,829.25 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุน 6,423.25 ล้านบาท  

โดย THAI มีผลขาดทุนสุทธิ 5,339.92 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 22.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน 6,883.81 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 2,492 ล้านบาท ลดลง 94.1% เป็นผลจากทั้งรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า รวมถึงบริการอื่นๆลดลง เพราะสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ประกาศห้ามอากาศยานขนส่งคนโดยสารทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราวตั้งแต่ 3 เม.ย.-30 มิ.ย. 

ขณะที่ช่วงครึ่งปีแรก 2563   มีผลขาดทุนสุทธิรวม 28,029 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 335.14% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุน 6,438.37 ล้านบาท เพราะรายได้ลดลง 56.1% อยู่ที่ 40,493 ล้านบาท เพราะรายได้ลดลง 56.1% อยู่ที่ 40,493 ล้านบาท ขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวม 58,801 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสำหรับการป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน และขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของสัญญา CCS เพราะบริษัทเข้าแผนฟื้นฟูกิจการทำให้สถาบันการเงินยกเลิกสัญญา Cross Currency Swap (CCS) เกือบทั้งหมดในเดือน มิ.ย.63

       

ส่วน AAV ไตรมาส 2 ปี 2563 มีผลขาดทุน 1,141.32 ล้านบาท ซึ่งขาดทุนเพิ่มขึ้น 136.55% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุน 482.47 ล้านบาท เนื่องจาก มีรายได้รวม 2,221 ล้านบาท ลดลง 78% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 10,006.4 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 4,021.4 ล้านบาท

       สำหรับในช่วงครึ่งปีแรก 2563 AAV มีรายได้รวม 9,675.5 ล้านบาท ลดลง 55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีผลขาดทุน 1,812.8 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14.7 ล้านบาท

นายดิษฐนพ วัธนเวคิน นักวิเคราะห์อาวุโส  บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระพัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้ผลการดำเนินงานคาดจะเริ่มฟื้นตัวจากไตรมาส 2 ปี 2563 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้แล้ว  เพราะสายการบินเริ่มทำการบินเส้นทางในประเทศได้แล้วตั้งแต่เดือนพ.ค. ซึ่งแนวโน้มค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น และรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว “เราเที่ยวด้วยกัน” จะทำให้หุ้นสายการบินมีกระแสเงินสดเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยสายการบินที่จะมีการฟื้นตัวได้ดี เป็นสายการบินที่มีสัดส่วนการบินในประเทศสูง เช่น AAV เพราะมีสัดส่วนการบินในประเทศ 50%  ส่วน บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) แม้จะมีสัดส่วนการบินในประเทศถึง 60% แต่ผู้โดยสารเป็นชาวต่างชาติ ขณะที่ AAV มีฐานลูกค้าในประเทศมากกว่า

ทั้งนี้ผลดำเนินงานครึ่งปีหลัง คาดว่าจะยังคงขาดทุนใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรก เพราะแม้ครึ่งปีหลังฟื้นตัวแต่ยังไม่มาก เพราะยังเป็นการบินเส้นทางในประเทศเป็นหลัก แม้ไตรมาส 4 ปีนี้ อาจจะเริ่มเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศได้ ประกอบกับในไตรมาส1ปี 2563 ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่มากจึงหนุนให้ผลดำเนินงานครึ่งปีแรก 

สำหรับทั้งปี 2563 คาดว่า AAV จะมีผลขาดทุนสุทธิ 3,766 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุน 474 ล้านบาท ส่วน BA ปีนี้คาดว่าจะมีผลขาดทุน 2,799 ล้านบาท จากปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 351 ล้านบาท ส่วน THAI นั้นบริษัทยังไม่ได้มีการปรับประมาณการใหม่ จากที่ THAI ยื่นเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ  ซึ่งเดิมนั้นบริษัทคาดว่าปีนี้ THAI จะขาดทุนสุทธิเกือบ 60,000 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรก 2563 มีผลขาดทุนกว่า 28,000 ล้านบาท โดยถือว่าใกล้เคียงกับที่บริษัทประเมินไว้ 

ดังนั้นบริษัทยังไม่แนะนำให้นักลงทุนเข้าลงทุนหุ้นสายการบิน เพราะแนวโน้มในครึ่งปีหลังยังคงขาดทุนอยู่ ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดบนราคาที่คาดว่าจะมีวัคซีนออกมาในปีหน้าแล้ว