'สทนช.'ดันโปรเจ็กต์ใหม่ขุดคลองแสนล้านดันน้ำเหนือลงอ่าวไทย

'สทนช.'ดันโปรเจ็กต์ใหม่ขุดคลองแสนล้านดันน้ำเหนือลงอ่าวไทย

สทนช. ดันแผนขุดคลองใหม่ ตามแนวคลองชัยนาท-ป่าสัก,ป่าสัก-อ่าวไทย ยาว 124 กิโลเมตร 1 แสนล้าน แก้ปัญหาน้ำเหนือหลากท่วมลุ่มเจ้าพระยา ชี้ถูกกว่าฟลัดเวย์ ขุดตามแนววงแหวนรอบที่3 ตามข้อเสนอไจก้า

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) เปิดเผยว่าตาม 9 แผนงาน ของแผนบรรเทาอุทกภัยเจ้าพระยาตอนล่าง วงเงิน 3.4 แสนล้านบาท ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ไปแล้ว ทาง สทนช.ได้ ให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกษาเพื่อจัดเรียงลำดับการดำเนินการอีกครั้งโดยพบว่า ที่น่าสนใจ คือโครงการเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมกรณีที่เกิดขึ้นในปี 2554 คือโครงการตัดลำน้ำเข้าคลองชัยนาท –ป่าสัก และ ป่าสัก-อ่าวไทย วงเงินรวมประมาณ 1 แสนล้านบาท

ซึ่งจะเป็นการขุดคลองใหม่ จะเชื่อมต่อจาก ป่าสัก-อ่าวไทย  ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อจากแนวคลองเดิม ชัยนาท- ป่าสัก รวมระยะทางประมาณ 124 กิโลเมตร จากปทุมธานี ฉะเชิงเทรา กรุงเทพฯ และสมุทรปาการ ลักษณะเป็นคลองเปิด ซึ่งจะทำให้ผ่านที่ชุมชนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการทำฟลัดเวย์ และการทำวงแหวนตามข้อเสนอขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่นหรือไจก้า

ทั้งนี้ตามแนวคลองที่บางส่วนต้องผ่านชุมชน จะขอซื้อ หรือจัดจ้าง แทนการเวนคืน หากไม่ยินยอมก็ต้องเจรจา คาดว่าจะใช้งบประมาณในกรณีซื้อที่ดินรวม 2 หมื่นล้านบาท ที่เหลือจะเป็นด้านเทคโนโลยี โดยการขุดคลองตามแนวขนาด กับคลองชัยนาท- ป่าสัก นั้นจะเริ่มดำเนินการในปี 2564 เป็นต้นไป ส่วนจากป่าสัก-อ่าวไทย กรมชลประทานอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม

หลังจากำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยลดพื้นที่น้ำท่วมได้ 9 ล้านไร่จากที่ปี 54 มีน้ำท่วมรวม 12 ล้านไร่ โดยจะมีพื้นที่น้ำท่วมลึก 1 เมตร 3 แสนไร่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ 12 ทุ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา

 

นายณัฐ มาแจ้ง อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ผลการศึกษาแผนหลักการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและบรรเทาอุทกภัยในลุ่มเจ้าพระยาใหญ่ 9 โครงการ ได้จัดเรียง โครงการที่ควรดำเนินการในปี 2564 -70 คือ ระบบโครงข่ายฝั่งตะวันออกเจ้าพระยา วงเงิน 6.4 หมื่นล้านบาท คลองระบายน้ำหลาก ชัยนาท- ป่าสัก 3.4 หมื่นล้านบาท ระบบโครงข่ายฝั่งตะวันตกเจ้าพระยา 4.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพแม่น้ำเจ้าพระยา 2.5 พันล้านบาท บริหารจัดการพื้นที่นอกคันเจ้าพระยา 4.1 พันล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพแม่น้ำท่าจีน 2.6 พันล้านบาท พื้นที่รับน้ำนอง 12 ทุ่งเจ้าพระยา ทั้งหมดนี้เป็นแผนงานปรับปรุง เพิ่มประสิทธิภาพระบบที่มีอยู่เดิมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ในขณะที่มีแผนงานต้องก่อสร้างใหม่ คือ คลองระบายน้ำหลาก บางบาล- บางไทร 2.1 หมื่นล้านบาท คอลงระบายน้ำหลาก ป่าสัก-อ่าวไทย 6.5 หมื่นล้านบาท คอลงระบายน้ำควบคู่กับถนนวงแหวนรอบที่3 งบ 9.3 หมื่นล้านบาท และคลองระบายน้ำหลาก ป่าสัก-คลองเชื่อม วงแหวน3- อ่าวไทย 1 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้เมื่อจัดเรียงลำดับตามแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยกรณีน้ำท่วมหนักปี 54 ซึ่งเป็นการเกิดขึ้นในรอบ 50 ปีต่อครั้ง พบว่า ควรใช้วิธีการขุดคลองเพื่อตัดน้ำหลากจากทางภาคเหนือ เข้าสู่คลองชัยนาท- ป่าสัก ที่มีอยู่เดิมที่ต้องขุดขยาย100 กิโลเมตร และให้ขุดคลองใหม่ จากคลองป่าสัก –อ่าวไทย 124 กิโลเมตรกว้าง 130 เมตร โดยมีทางออกของคลองบริเวณคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปาการ

“แผนการนี้จะลดพื้นที่น้ำท่วมในเขตนิคมอุตสาหกรรม ที่พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานีได้ แต่ยังจะมีน้ำท่วมอยู่บ้างในบางพื้นที่ของกรุงเทพฯ ดังนั้นเพื่อให้น้ำระบายลงอ่าวไทยได้เร็วขึ้นซึ่งจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กรุงเทพฯได้100 % จะ ต้องขุดคลองใหม่ตามแนววงแหวนรอบที่ 3 ยาว 110 กิโลเมตรด้วย ร่วมด้วย “

 โดยแผนดำเนินงาน ประกอบด้วยค่าก่อสร้างคลองระบายน้ำพร้อมถนนคันคลอง ค่าก่อสร้างอาคารประกอบตามแนวคลอง ค่าเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งแยกเป็น 4 ส่วน คือ แผนงานขุดคลองขยาย ชัยนาท- ป่าสัก รวม 3.4 หมื่นล้านบาท แผนขุดคลองใหม่ ป่าสัก-อ่าวไทย 6.5 หมื่นล้านบาท แผนขุดคลองตามวงแหวนรอบที่3 วงเงิน 8.2 หมื่นล้านบาท และการขุดคลองเชื่อมป่าสัก-วงแหวนรอบที่ 3 อีก 1.3 หมื่นล้านบาท