ก.ล.ต.เล็งปรับปรุงเกณฑ์การกำกับดูแลบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน

ก.ล.ต.เล็งปรับปรุงเกณฑ์การกำกับดูแลบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน

ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน เพื่อลดกระบวนการที่มีความซ้ำซ้อนและลดภาระของบุคลากร รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจในการกำกับดูแลบุคลากรเท่าที่จำเป็น

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่าภายใต้หลักเกณฑ์การให้ความเห็นชอบบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในปัจจุบัน บุคลากรที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานก.ล.ต. หากยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สังกัดผู้ประกอบธุรกิจใดและต้องการดำรงสถานะการเป็นบุคลากรที่ได้รับความเห็นชอบ จะต้องเข้ารับการอบรมทบทวนความรู้ (refresher course) อีกทั้งยังจะต้องชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุทุกรอบ 2 ปีปฏิทิน เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท สำหรับบุคลากรที่เป็นผู้แนะนำการลงทุน นักวิเคราะห์การลงทุน และผู้วางแผนการลงทุน และเป็นจำนวน 10,000 บาทสำหรับผู้จัดการกองทุน

ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน เพื่อลดภาระให้แก่บุคลากรดังกล่าว และเพื่อให้การกำกับดูแลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีกระบวนการที่สะดวกรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ทั้งผู้ประกอบธุรกิจและบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนโดยมีแนวทาง ดังนี้ (1) ยกเลิกการขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนสำหรับบุคคลที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สังกัดผู้ประกอบธุรกิจใด เพื่อลดภาระในการยื่นขอต่ออายุและชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุกับ ก.ล.ต. (2) ให้ผู้ประกอบธุรกิจมีหน้าที่ขอความเห็นชอบและแจ้งเริ่มและสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงการต่ออายุ โดยผู้ประกอบธุรกิจต้องพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลให้เป็นไปตามที่หลักเกณฑ์กำหนดก่อนยื่นขอรับความเห็นชอบผ่านระบบ auto-approve ของ ก.ล.ต.

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังจะขยายระยะเวลาการต่ออายุบุคลากรเป็นระหว่างวันที่ 1 กันยายนถึงวันทำการสุดท้ายของปี จากเดิมระหว่างวันที่ 1 กันยายนถึง 15 ธันวาคม เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบธุรกิจมีเวลาในการยื่นต่ออายุแก่บุคลากรไปจนถึงวันที่ใกล้เคียงกับวันสิ้นสุดการได้รับความเห็นชอบ

ทั้งนี้ ก.ล.ต. เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=641 ผู้เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: [email protected] [email protected] [email protected] หรือ [email protected] จนถึงวันที่ 14 กันยายน 2563