พลพรรค 'รุ้ง' กลางศึกต่างรุ่น

พลพรรค 'รุ้ง' กลางศึกต่างรุ่น

พลันที่การชุมนุม “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต จบลง สังคมไทยสั่นสะเทือนยิ่งกว่าสมัยที่นักวิชาการและคนเสื้อแดง ยื่นร่างกฎหมายแก้ไขมาตรา 112

 ปี 2555 กลุ่มแดงอิสระออกแคมเปญ “ปรากฏการณ์ 112 ริกเตอร์” แต่ปี 2563 ปรากฏการณ์ 10 ข้อเสนอของนักศึกษาธรรมศาสตร์ สั่นสะเทือนสังคมไทยยิ่งนัก

 ชื่อแนวร่วม “ธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ได้รับการพูดถึงมากขึ้น และอยากทราบว่า แกนนำกลุ่มดังกล่าวเป็นใครบ้าง?

 ที่เปิดหน้าตั้งแต่ก่อนจัดกิจกรรม มีเพียงคนเดียวคือ รุ้งปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นักศึกษาคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 “รุ้ง” ปนัสยา ร่วมงานกับ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ เคลื่อนไหวในนามพรรคโดมปฏิวัติ และ สนท. มาสองสามปีแล้ว

 เมื่อแฟลชม็อบภาคแรก วันที่ 27 ก.พ.2563 ในกิจกรรม “รวมพลังธรรมศาสตร์ ทวงคืนอนาคต” ที่ลานพญานาค ธรรมศาสตร์ รังสิต

 วันนั้น “รุ้ง” ร่วมกับ พริษฐ์ ชิวารักษ์ และณัฐชนน ไพโรจน์ หัวหน้าพรรคโดมปฏิวัติ เป็นแกนนำจัดกิจกรรมดังกล่าว

 สำหรับการชุมนุมครั้งใหม่ พรรคโดมปฏิวัติ ไม่ได้เป็นเจ้าภาพ แต่ “รุ้ง” ร่วมงานเพื่อนๆ ในนามแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม

 

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ อลังการงานสร้าง ด้วยเวทีมาตรฐาน พร้อมจอแอลอีดีขนาดใหญ่เป็นฉาก อุปกรณ์แสงสีสำหรับการใช้แสดงดนตรี

       เหตุที่รุ้งและเพื่อนๆ จัดกิจกรรมธรรมศาสตร์จะไม่ทน ได้ยิ่งใหญ่กว่าทุกมหาวิทยาลัย เพราะมีองค์การนักศึกษามหาวิทยาธรรมศาสตร์ (อมธ.) อำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง

  ไม่แปลกที่ อมธ.จะออกแถลงการณ์ มีความเห็นว่า 10 ข้อเสนอฯ “..ไม่ใช่เรื่องที่ขัดต่อกฎหมายแต่เป็นการแสดงออก ซึ่งสามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง”

 “รุ้ง” ปนัสยา ให้สัมภาษณ์ข้ามฟ้ากับจอม เพชรประดับว่า รู้สึกผิดหวังที่คณะผู้บริหาร ม.ธรรมศาสตร์ ที่ไม่ปกป้องพวกเธอ ทั้งที่ได้นำเสนอสคริปต์ และข้อเสนอให้ฝ่ายบริหารดูแล้ว

แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จะไม่ยอมลดเพดานข้อเรียกร้อง ไม่กลัวการถูกจับ และการเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้าม

 เยาวชนปลดแอกหรือเยาวชนรุ่นนี้ มีความฝันที่จะนำสังคมไทยก้าวไปสู่ประชาธิปไตยเสรีนิยม ซึ่งอยู่คนฝั่งฝันกับคนรุ่นเก่า นี่คือจุดเสี่ยงของประเทศไทย