การฟื้นตัวขึ้นต่อของ SET Index ควรเพิ่มความระวังหลังประมาณการกำไรยังลดลง

การฟื้นตัวขึ้นต่อของ SET Index ควรเพิ่มความระวังหลังประมาณการกำไรยังลดลง

ข่าววัคซีนทำให้มีแรงเก็งกำไรกลุ่มท่องเที่ยว แต่ระวังแรงขายหุ้นยาง

มีรายงานข่าวว่ารัสเซียอนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิดของบริษัทกาลาเลยาในมนุษย์ โดยวัคซีนดังกล่าวข้ามขั้นในการทดลองเฟสที่ 3 (การทดลองในกลุ่มตัวอย่างมนุษย์ขนาดใหญ่ เพื่อดูผลข้างเคียง) และ WHO ได้ออกมาเตือนถึงผลกระทบจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามข่าวดังกล่าวส่งผลบวกต่อบรรยากาศการลงทุนในภาพรวม และกลุ่มท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบหนักจากโควิด อย่างไรก็ตามควรระวังความผันผวนและแรงทำกำไรหุ้นกลุ่มยาง/ถุงมือยาง หลังหุ้นถุงมือยางในมาเลเซียปรับลดลงมากกว่า 10% วานนี้

การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะสร้างโอกาสซื้อที่ดี เรามองตลาดในระยะสั้นมีโอกาสจะผันผวนเนื่องจากการการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ จาก 1) การอยู่ในภาวะขายมากเกินไป ทำให้มีโอกาสฟื้นตัวกลับทางเทคนิค 2) ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่มีแนวโน้มสูงขึ้นก่อยการเลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐฯ 3) แผนการออกพันธบัตรในช่วง ส.ค.-ต.ค.จำนวน 132 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับจากสงครามโลก ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรมีโอกาสดีดตัวขึ้น (บวกต่อกลุ่มธนาคาร) ขณะที่ค่าเงินสหรัฐฯ มีความเสี่ยงแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้น อย่างไรก็ตามเรามองความผันผวนที่เกิดขึ้นจะสร้างโอกาสการลงทุนที่ดี

การฟื้นตัวของดัชนีควรเพิ่มความระวัง หลังประมาณการกำไรยังลดลง (คาดการณ์ EPS ของ SET Index ล่าสุดต่ำกว่า 60) ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสถานการณ์ทั้งสอง จะทำให้ความน่าสนใจลงทุนในหุ้น (Earnings yield gap) หดตัวลง ซึ่งจะ trigger ให้เกิดแรงขายทำกำไรในระดับ 50-100 จุด ได้ เราแนะนำนักงทุนแบ่งขายล็อคกำไรในหุ้นที่ปรับขึ้นมาก และลดขนาดการเก็งกำไรในระยะสั้นลง โดยคาดหวังโอกาสลงทุนที่ดีที่อาจเกิดขึ้นในช่วง 3-5 สัปดาห์จากนี้

Theme การลงทุนที่น่าสนใจ เก็งกำไรรายตัว ในกลุ่มผลประกอบการดี ได้แก่ 1) กลุ่มอาหาร CPF, TU 2) ประกันภัย TIP, THRE 3) ยาง ถุงมือยาง STA, STGT 4) หุ้นปลอดภัย /มั่งคง ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, BCH, TPCH, WHAUP, EASTW 5) หุ้นฟื้นจากจุดต่ำสุด PTTGC, PTT 6) อื่นๆ AP, AI, CKP // หุ้นที่ต้องระวัง 1) การเงิน SAWAD, MTC, KTC, AEONTS

ภาพรวมกลยุทธ์ อาจฟื้นตัวแต่ด้อยกว่าตลาดโลก เนื่องจากปัจจัยกดดันจากการเมืองในประเทศ การเก็งกำไรยังควรระวังความผันผวนระยะสั้นจากทิศทางค่าเงินสหรัฐฯ ที่มีโอกาสแข็งค่าขึ้น เก็งกำไรสั้นเลือก defensive (สื่อสาร) และธนาคาร (bond yield ขึ้น) // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร ADVANC, KBANK*, BWG*, AJ* / ขายชอร์ต SAWAD (เป้า 42 ตัดขาดทุน 51.50), MTC (เป้า 45 ตัดขาดทุน 50.50), AOT (เป้า 45 ตัดขาดทุน 54.25)

แนวรับ 1,320 จุด / แนวต้าน : 1,340-1,350 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

CPI สหรัฐพุ่งเกินคาด ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 1.0% เมื่อเทียบรายปี ได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

S&P500 วิ่งขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 3,390 จุด ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ทีเคยทำไว้ในเดือน ก.ย. 2563 ก่อนช่วงวิกฤตโควิด-19

ราคาน้ำมันดิบ – สต็อคน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล

MSCI ไม่มีหุ้นไทยเข้า/ออกจากดัชนีในการคำนวณรอบนี้ แต่ติดตามการปรับเปลี่ยนน้ำหนักของหุ้นรายตัวที่อาจกระทบการเคลื่อนไหวได้

ระวังความผันผวนของหุ้นยาง – หลังวานนี้มีแรงทำกำไรหุ้นกลุ่มดังกล่าวในตลาดมาเลเซีย ทั้ง Top Glove (-10.26%), Harta (-11.91%), Kossan (-14.20%) และ Supermax (-12.83%)

ค่าระวางเรือ – ดัชนี BDI index วันที่ 12 ส.ค. อยู่ที่ระดับ 1,540 เพิ่มขึ้น1.99%

ประเด็นติดตาม: 15 ส.ค. – การติดตามการปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟส 1 ของสหรัฐฯ-จีน/ 17 ส.ค. – TH GDP 2Q20/ 19 ส.ค. – EU CPI เดือน ก.ค./ 21 ส.ค. – EU manufacturing PMI เดือน ส.ค.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)