ธ.ก.ส.เผยเงินฝากขยายตัวสูง4เดือนสุทธิ3หมื่นล.

ธ.ก.ส.เผยเงินฝากขยายตัวสูง4เดือนสุทธิ3หมื่นล.

ธ.ก.ส.เผย 4 เดือนแรกของปีบัญชี 63 สามารถระดมเงินฝากสุทธิได้สูงถึง 3 หมื่นล้านบาท นับเป็นครั้งแรกที่เงินฝากขยายตัวได้ต่อเนื่อง ระบุ ผลของมาตรการรัฐทั้งพักชำระหนี้และการจ่ายเงินเยียวยา ทำให้ประชาชนสามารถออมเงินได้มากขึ้น มั่นใจทั้งปียอดฝากเป็นไปตามเป้า

นางณิชา อวยพรรุ่งรัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยสถานการณ์เงินฝากของธนาคารว่า เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่เดือนเม.ย.เป็นต้นมา ซึ่งเป็นต้นปีบัญชีของธนาคาร ยอดเงินฝากขยายตัวสุทธิประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ตลอดปีบัญชีคาดว่า จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 6.5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นปีบัญชี 2562 ธ.ก.ส.มียอดฝากคงค้าง 1.6 ล้านล้านบาท

สาเหตุที่เงินฝากสามารถขยายตัวได้ดี ซึ่งสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจ ส่วนสำคัญเป็นเพราะธนาคารได้กำหนดกลยุทธ์การหาเงินฝากได้ดี ประกอบกับ นโยบายของรัฐบาลหลายด้าน ทั้งมาตรการพักชำระหนี้ การช่วยเหลือผ่านเงินเยียวยา ทำให้ประชาชน โดยเฉพาะในภาคเกษตรสามารถมีเงินออมได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ส่วนราชการก็ยังเข้ามาฝากเงินเพิ่มขึ้น

“ปีนี้ เป็นปีแรกที่ธนาคารมียอดเงินฝากที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง อาจจะเป็นเพราะรัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือเงินเยียวยา ซึ่งเกษตรกรบางรายอาจจะยังไม่ได้เบิกเงินออกมาใช้ ทำให้เงินยังคงค้างอยู่ในบัญชี และการพักชำระหนี้ของธนาคาร ทำให้เกษตรกรมีเงินฝากเหลือในบัญชี”

ทั้งนี้ ในปีบัญชีนี้ ธนาคารมีเป้าหมายระดมเงินฝากผ่านสลากออมทรัพย์ราว 1.6 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 26-27% ของเงินฝากรวม โดยจะออกสลากออมทรัพย์ชุดเกษตรมั่งคั่ง 5 จำนวน 1 แสนล้านบาท และ ในช่วงต้นปีหน้าจะออกสลากออมทรัพย์เพื่อทดแทนรุ่นที่ครบกำหนดอีก 6 หมื่นล้านบาท

สำหรับสลากสลากออมทรัพย์ชุดเกษตรมั่งคั่ง5วงเงิน 1 แสนล้านบาทนั้น จะเปิดขายในวันที่ 20 ส.ค.นี้ จำนวน 1 พันล้านหน่วยๆละ 100 บาท อายุสลาก 3 ปี เพื่อระดมเงินฝากจากประชาชนนำไปใช้เป็นทุนสนับสนุนภาคเกษตรกรรม กรณีฝากผ่านเคาน์เตอร์ เมื่อฝากครบกำหนดไถ่ถอนจะได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 0.30 บาท หรือคิดเป็นอัตราดอกเบี้ย 0.10% ต่อปี

ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าฝากสลากออมทรัพย์ทวีสินผ่านช่องทางA-Mobile จะได้รับดอกเบี้ยเพิ่มเป็นหน่วยละ 0.60 บาท หรือคิดเป็นอัตราดอกเบี้ย 0.20%ต่อปี ซึ่งหากมีการไถ่ถอนก่อนกำหนดจะไม่ได้รับดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ยังได้ลุ้นรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน และวันที่ 17 มกราคม ของทุกปี รวม 36 ครั้ง รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้น 2.1 ล้านรางวัล เป็นเงิน 91.5 ล้านบาทต่อเดือน โดยจะออกรางวัลครั้งแรกวันที่ 16 กันยายน 2563 ที่สำคัญดอกเบี้ยและเงินรางวัลได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับบุคคลทั่วไปและยังสามารถนำไปใช้เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันได้อีกด้วย