เอพีชี้คนรุ่นใหม่ซื้อบ้านมากกว่ารถ

เอพีชี้คนรุ่นใหม่ซื้อบ้านมากกว่ารถ

เอพี เผยยอดขายพรีเซล7 เดือนแรกโต55% ของเป้ายอดขายรวม 33,500 ล้านบาทจากยอดขายแนวราบ ระบุรายได้ครึ่งปีแรกทะลุ19,960ล้านบาท สูงสุดรอบ29ปี เหตุคนรุ่นใหม่หันมาซื้อบ้านแทนรถยนต์

นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 7 เดือนแรก(ม.ค.-ก.ค.) ของปี 2563 บริษัทมียอดขาย (Presale) รวม 18,175 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% ของเป้าหมายยอดขายรวมทั้งปีที่ตั้งไว้ 33,500 ล้านบาทแบ่งเป็น สินค้าประเภทแนวราบ 15,540 ล้านบาท เติบโต 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 70% ของเป้าหมายยอดขายแนวราบทั้งปีที่ 22,500 ล้านบาท ซึ่งยอดขายสินค้าแนวราบทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจากโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย และโครงการแนวราบที่เปิดตัวใหม่ในครึ่งปีแรก จำนวน 14 โครงการ มูลค่ารวม 15,475 ล้านบาท และเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม มูลค่า 2,633 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทไม่ได้เปิดตัวคอนโดใหม่

“ยอดขายโครงการแนวราบในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นจากแนวราบ สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปคือหันมาให้ความสนใจกับโครงการแนวราบเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะทาวน์โฮม ที่มีระดับราคาใกล้เคียงคอนโด เริ่มตั้งแต่ 2-4 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์พลีโน่ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีอายุตั้งแต่26-30ปีที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นหลังโควิด40%จากปกติมีสัดส่วนอยู่ที่31% โดยเป็นกลุ่มคนเพิ่งเริ่มทำงานและกำลังมีครอบครัวที่ต้องการบ้านหลังแรก ตอบโจทย์การใช้ชีวิตวิถีใหม่แตกต่างจากคนสมัยก่อนที่นิยมซื้อรถยนต์มากกว่าจะซื้อบ้าน ”

ดังนั้นบริษัทจึงมีแผนเปิดตัวโครงการแนวราบในช่วงครึ่งปีหลังจำนวน 27 โครงการ มูลค่า 28,185 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวโครงการทาวน์โฮม จำนวน 13 โครงการ มูลค่ารวม 15,350 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 8 โครงการ และโครงการแนวราบในต่างจังหวัด จำนวน 5 โครงการ

โดยโครงการทาวน์โฮม จำนวน 13 โครงการ จะเป็นแบรนด์ “บ้านกลางเมือง” ที่มีระดับราคา4-8ล้านบาท และแบรนด์ พลีโน่ 2-4 ล้านบาท โดยในเดือนก.ย.นี้ จะเปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์บ้านกลางเมือง จำนวน 2 โครงการ ขณะที่ในเดือนต.ค.นี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 5 โครงการ แบ่งเป็น แบรนด์บ้านกลางเมือง จำนวน 2 โครงการ และแบรนด์ พลีโน่จำนวน 3 โครงการ

นอกจากนี้ ในเดือนส.ค. บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์พลีโน่ จำนวน 5 โครงการ และในเดือนพ.ย. บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์บ้านกลางเมือง จำนวน 1 โครงการ ซึ่งการเปิดตัวโครงการแนวราบในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อรองรับความต้องการที่ยังมีอย่างต่อเนื่องในโครงการแนวราบ

สำหรับยอดโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 อยู่ที่ 19,960 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 50% ของเป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งปีที่ 40,500 ล้านบาททั้งนี้ ผลประกอบการที่เติบโตขึ้น มาจากการส่งมอบโครงการทั้งโครงการแนวราบและโครงการคอนโดมิเนียมที่มากขึ้น สะท้อนได้ถึงความมั่นใจของผู้บริโภค ตลอดจนกำลังซื้อที่ยังคงมีอยู่ และเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะค่อยปรับตัวที่ดีขึ้น