MAKRO - ถือ

MAKRO - ถือ

ผลประกอบการ 2Q63: ดีเกินคาด

Event

กำไรสุทธิของ MAKRO ใน 2Q63 อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท (-0.4%YoY, -30% QoQ) ดีกว่าประมาณการของเรา 24% และดีกว่า Bloomberg consensus 27% โดยกำไรที่ดีเกินคาดใน 2Q63 เป็นเพราะ i) อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น และ ii) ค่าใช้จ่าย SG&A ต่ำเกินคาด ทั้งนี้ กำไรสุทธิใน 1H63 อยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท(+6%YoY) คิดเป็น 43% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา

lmpact

SSSG อ่อนแอตามคาด

ยอดขายของ MAKRO ใน 2Q63 ลดลงเหลือ 5.03 หมื่นล้านบาท (-1%YoY และ -9%QoQ) เนื่องจากมาตรการในช่วง Covid-19 ซึ่งได้แก่ i) การยกเลิกงานฉลองเทศกาลสงกรานต์ ii) การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ iii) การห้ามเดินทางข้ามจังหวัด และ iv) การห้ามเที่ยวบินระหว่างประเทศ ทั้งนี้ SSSG ใน 2Q63 อยู่ที่ -3.6% (ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดไว้) ส่งผลให้ SSSG ใน 1H63 อยู่ที่ 1.7% (จาก 1H62 ที่ 6.7%และประมาณการปี 2563 ของเราที่ 1.5%) ทั้งนี้ บริษัทเปิดสาขาใหม่ 1 แห่งในรูปแบบของบริการด้านอาหาร และอีก 1 แห่งในรูปแบบ Fresh@MAKRO ในขณะที่มีการเปิดตัวสาขาในเมียนมาร์แบบ soft opening ส่งผลให้จำนวนสาขาทั้งหมดเพิ่มเป็น 143 สาขา (ไทย 136 สาขา และ ต่างประเทศ 7 สาขา)

อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 9.6%

อัตรากำไรขั้นต้น อยู่ที่ 9.6% (+0.2ppts YoY แต่ -0.4ppts QoQ) ดีกว่าประมาณการ 2Q63 ของเราที่ 9.4%ซึ่งทำให้อัตรากำไรขั้นต้นใน 1H63 อยู่ที่ 9.9% (+0.2ppts YoY) ซึ่งต่ำกว่าสมมติฐานปี 2562 ของเราที่ 10.5% ในขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A อยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท (-1% YoY และ -6% QoQ) เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดลดลงในช่วงที่ COVID-19 ระบาด ส่งผลให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายอยู่ที่ 8.3% ต่ำกว่าประมาณการ 2Q63 ของเราที่ 9.0%

ปรับลดประมาณการกำไรลง 6%

เราคาดว่าผลประกอบการน่าจะดีขึ้นใน 2H63 จากฐานที่ต่ำใน 2Q63 แต่การจับจ่ายใช้สอยของครัวเรือนที่ลดลงจากการว่างงานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นก็อาจจะทำให้กำไรลดลง YoY เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2563-64 ลง 6% เพื่อสะท้อนถึง i) SSSG ปี 2563 ที่ลดลงจากเดิม 1.5% เหลือ 0.5% และ ii) อัตรากำไรขั้นต้นปี 2563-64 ที่ลดลงจากเดิม 0.2ppts in 2020-2021 ดังนั้น เราจึงคาดว่าผลประกอบการของ MAKRO จะทรงตัว YoY ในปี 2563 โดยคาดว่า SSSG จะยังเป็นบวก และดีกว่าหุ้นอื่นในกลุ่ม

Valuation & Action

เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย DCF สิ้นปี 2564 ที่ 39.00 บาท โดยใช้ WACC ที่ 8.2% ใช้ R(f) ที่ 3.1% และ LT-growth ที่ 2.0% ทั้งนี้ เนื่องจากเหลือ upside อีกไม่มาก เราจึงยังคงคำแนะนำ “ถือ”

Risks

ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลง ราคาพืชผลตกต่ำ ขยายสาขาไม่ได้ตามแผน วัฒนธรรมการบริโภค ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากการขยายกิจการในต่างประเทศ