MAJOR - ถือ

MAJOR - ถือ

ผลประกอบการ 2Q63: ขาดทุนสุทธิหนักกว่าคาด

Event

MAJOR ขาดทุนสุทธิ 475 ล้านบาทใน 2Q63 (รวมรายการพิเศษหลังภาษี 179 ล้านบาท จากการตั้งสำรองลูกหนี้ 63 ล้านบาท ขาดทุนจากการประเมินราคาสินทรัพย์ใหม่ 52 ล้านบาท ขาดทุนด้อยค่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ค่าความนิยม 89 ล้านบาท และขาดทุนจากการขายเงินลงทุนบางส่วนใน บมจ.
สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ หรือ SF 19 ล้านบาท) โดยผลประกอบการใน 2Q63 พลิกจากที่มีกำไรสุทธิ 569 ล้านบาทใน 2Q62 และขาดทุนเพิ่มจาก 255 ล้านบาทใน 1Q63 อีกทั้งยังแย่กว่าประมาณการของเรา 26% และแย่กว่าที่ตลาดคาด 8% ตามลำดับ

lmpact

ผลประกอบการ 2Q63 ถูกฉุดจากรายได้ที่ลดลงในทุกกลุ่มธุรกิจ

หากไม่รวมรายการพิเศษ จะขาดทุนหลักที่ 296 ล้านบาท ดีกว่าประมาณการของเรา 18% เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจาก SF มากกว่าคาด ทั้งนี้ผลการดำเนินงานใน 2Q63 แย่ลงจากที่มีกำไรหลัก 566 ล้านบาทใน2Q62 และขาดทุนหลัก 234 ล้านาทใน 1Q63 โดยปัจจัยสำคัญที่ฉุดผลประกอบการใน 2Q63 คือรายได้ที่ลดลงเหลือเพียง 208 ล้านบาท (-84% QoQ, -93% YoY) เนื่องจากรายได้จากทุกกลุ่มธุรกิจลดลง โดยเฉพาะรายได้จากโรงภาพยนตร์ (ธุรกิจหลัก) ลดลงเหลือ 92 ล้านบาท (-90% QoQ, -96% YoY) เนื่องจากผู้ชมลดลงหลังปิดบริการโรงภาพยนตร์ทุกแห่งในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2563

คาดผลประกอบการจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ 3Q63 เป็นต้นไป

เราคาดว่าผลประกอบการของ MAJOR จะค่อยๆ ดีขึ้นตั้งแต่ 3Q63 เป็นต้นไป เพราะ i)มีการผ่อนคลายมาตรการ lockdown และการรักษาระยะห่างทางสังคม โดยไม่ได้มีข้อจำกัดในการเว้นที่นั่งในโรงภาพยนตร์แล้ว ii) มีหนังดังอย่างเช่น Train to Busan: Peninsula (ภาพยนตร์เกาหลี) เข้าฉายในเดือนกรกฎาคม และ iii) มีโปรแกรมหนังเด็ดจากฮอลลีวู้ด โดยเฉพาะ “Tenet” ซึ่งกำหนดเข้าฉายในปลายเดือนสิงหาคมใน 70 ประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย

คงประมาณการกำไรปี 2563-64 เอาไว้ตามเดิม

ถึงแม้ว่าผลขาดทุนหลักใน 1H63 จะคิดเป็น 63% ของประมาณการปีนี้ของเรา แต่เรายังคงประมาณการผลขาดทุนปี 2563 เอาไว้ที่ 848 ล้านบาท เพราะคาดจะขาดทุนในจำนวนที่น้อยลงตั้งแต่ 3Q63 เป็นต้นไป และพลิกกลับมามีกำไรได้ในปี 2564 ตามสถานการณ์ COVID-19 ที่น่าจะคลี่คลาย อีกทั้งยังมีโปรแกรมหนังเด็ดจากฮอลลีวู้ดที่ถูกเลื่อนลงโรงฉายไปจากปีนี้

Valuation & Action

เรายังคงราคาเป้าหมายปี 2564 เอาไว้ที่ 15.10 บาท (DCF- WACC 7.2%) เรายังคงคำแนะนำ ถือ MAJOR เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2564 ในขณะที่คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 2564 จูงใจที่ 5.0%

Risks

รายได้จากโรงภาพยนตร์ต่ำกว่าที่คาดไว้