ปัจจัยการเมืองในประเทศอาจกดดัน SET เคลื่อนไหวด้อยกว่าตลาดโลก

ปัจจัยการเมืองในประเทศอาจกดดัน SET เคลื่อนไหวด้อยกว่าตลาดโลก

ความกังวลปัจจัยการเมืองในประเทศเพิ่มสูงขึ้น

หลังการชุมนุม “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” เมื่อคืนนี้ นอกจากการยืนยันข้อเรียกร้อง 3 ข้อก่อนหน้า (ได้แก่ 1) หยุดคุกคามประชาชน 2) ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ 3) ยุบสภา) ทางกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม มีการประกาศข้อเรียกร้อง 10 ข้อเกี่ยวกับการปรับความสัมพันธ์ของสถาบันกษัตริย์กับการเมืองไทย ซึ่งเรามองว่าข้อเรียกร้องในประเด็นที่อ่อนไหวดังกล่าว และเป็นปัจจัยยกระดับความตึงเครียดของระดับการรักษาความมั่นคงภายใน ซึ่งอาจกดดันการเคลื่อนไหวของหุ้นไทยในระยะสั้นให้ด้อยกว่าตลาดโลกโดยรวมได้

หุ้นโลกบวก แต่เริ่มมีความระวังต่อกลุ่มเทคโนโลยี หุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น ภาพรวมการลงทุนหุ้นโลกยังได้รับปัจจัยบวกจากความคาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก รวมถึงการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามเราเห็นแรงทำกำไรในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลต่อ 1) ความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีนที่เพิ่มสูงขึ้น 2) valuation ของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับขึ้น หลังราคาน้ำมันปรับเพิ่มจากคาดการณ์อุปสงค์ในเอเชียฟื้นตัวขึ้น ขณะที่มีรายงานอิรักจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันอีก 4 แสนบาร์เรล/วันในเดือนส.ค.และก.ย.เพื่อชดเชยกับการที่ได้ผลิตน้ำมันเกินโควต้าในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า

ติดตามการทบทวนหุ้น (Rebalancing) ดัชนี MSCI 12 ส.ค. ว่าจะมีหุ้นใดถูกปรับออกหรือนำเข้าสู่การคำนวณของดัชนี (รวมถึงการปรับเพิ่มลดน้ำหนักรายตัว) ทั้งนี้จากกระแสความนิยมของการลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ทำให้มีโอกาสที่จีนและไต้หวัน จะได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน ขณะที่ประเทศอื่นๆ มีความเสี่ยงที่อาจถูกปรับลดน้ำหนักการลงทุนลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระยะสั้นได้

Theme การลงทุนที่น่าสนใจ เก็งกำไรรายตัว ในกลุ่มผลประกอบการดี ได้แก่ 1) กลุ่มอาหาร CPF, TU 2) ประกันภัย TIP, THRE 3) ยาง ถุงมือยาง STA, STGT 4) หุ้นปลอดภัย /มั่งคง ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, BCH, TPCH, WHAUP, EASTW 5) หุ้นฟื้นจากจุดต่ำสุด PTTGC, PTT 6) อื่นๆ AP, AI, CKP // หุ้นที่ต้องระวัง 1) การเงิน SAWAD, MTC, KTC, AEONTS

ภาพรวมกลยุทธ์ อาจฟื้นตัวแต่ด้อยกว่าตลาดโลก เนื่องจากปัจจัยกดดันจากการเมืองในประเทศ การเก็งกำไรยังควรระวังความผันผวนระยะสั้นจากทิศทางค่าเงินสหรัฐฯ ที่มีโอกาสแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร ADVANC, BWG*, AJ* / ขายชอร์ต SAWAD (เป้า 42 ตัดขาดทุน 51.50), MTC (เป้า 45 ตัดขาดทุน 50.50), AOT (เป้า 45 ตัดขาดทุน 54.25)

แนวรับ 1,300 จุด / แนวต้าน : 1,335 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

สถานการณ์โควิด – ผู้ติดเชื้อทั่วโลกอยู่ที่ 20,237,780 ราย โดยผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มล่าสุด 208,657 ราย เสียชีวิต 4,308 ราย สหรัฐฯ ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 49,012 ราย เสียชีวิต 540 ราย ตัวเลขผู้เสียขีวิตโลกและสหรัฐ ที่คุมได้ต่ำ 5,000 และ 1,000 ราย เป็นบวก

จีนตอบโต้สหรัฐฯ – กระทรวงการต่างประเทศของจีนตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรสหรัฐฯ ผ่านการประกาศคว่ำบาตรกลุ่มวุฒิสภาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ จำนวน 11 ราย

ดัชนีบ่งชี้ภาคครัวเรือนหดตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า – ดัชนีภาวะเศรฐกิจครัวเรือนฯ (KR-ECI) เดือน ก.ค. อยู่ที่ 35.3 ปรับลดลงจากตัวเลขเดือน มิ.ย. ที่ระดับ 36.0 จากประเด็นเรื่องหนี้สิน ภาระค่าใช้จ่าย รวมถึงระดับราคาสินค้าและบริการภายในประเทศ

CPALLผลการดำนเนินงาน MAKRO ไตรมาส 2/63 มีกำไร 1,180 ล้านบาท ดีกว่าตลาดคาดที่ 932 ล้านบาท อยู่ 26% ส่งผลให้ CPALL มีโอกาสรายงานกำไรที่ดีกว่าคาด

ค่าระวางเรือ – ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI index) วันที่ 10 ส.ค. อยู่ที่ระดับ 1,506 เพิ่มขึ้น0.33%

ประเด็นติดตาม: 12 ส.ค. – MSCI Rebalancing, IEA monthly report, OPEC monthly report / 15 ส.ค. – การติดตามการปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟส 1 ของสหรัฐฯ-จีน

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)