'สตาร์มาร์ค'เร่งขยายรีเทล ชดเชยเปิดตัวคอนโดใหม่ลด

'สตาร์มาร์ค'เร่งขยายรีเทล ชดเชยเปิดตัวคอนโดใหม่ลด

สตาร์มาร์ค ชี้โควิดฉุดอสังหาฯวูบ ฉุดรายได้ครึ่งปีแรกหดตัว 20% พลิกกลยุทธ์ขยายรีเทล รุกออนไลน์ รองรับเสี่ยงหากคอนโดมิเนียมเลื่อนเปิดโครงการใหม่

นางสาวณัฐปภัสร์ ศรีสกุลภิญโญ กรรมการผู้จัดการบริษัทสตาร์มาร์คแมนูแฟคเชอร์ริ่งจำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจหลังจากการระบาดเชื้อไวรัสโคโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ว่าส่งผลทำให้ภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์ปรับตัวลดลงตามธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง ทำให้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในของสตาร์มาร์ค(Starmark interior) ช่วงครึ่งปีแรกของปี2563 ปรับตัวลดลง20%

“สถานการณ์โควิดส่งผลกระทบทำให้ภาพรวมธุรกิจลดลงไปตามสภาวะเศรษฐกิจที่กลุ่มนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์(Developer) ลดการเปิดตัวโครงการใหม่หรือเลื่อนออกไปซึ่งสตาร์มาร์คมีรายได้จากกลุ่มคอนโดมิเนียมเป็นหลักถึง75% จึงส่งผลทำให้ครึ่งปีแรกของปีมียอดรายได้ลดลง20%”

จากสถานการณ์ดังกล่าวจึงทำให้สตาร์มาร์คต้องปรับกลยุทธ์เร่งเพิ่มช่องทางการหารายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยการขยายตลาดค้าปลีก(Retail)มากขึ้นจากปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ25%โดยการขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้ารายย่อยตกแต่งบ้านด้วยการเปิดสาขาเพิ่มขึ้นในโฮมโปร และบุญถาวรรวมทั้งสิ้น 5 แห่ง คือ รังสิตคลอง4,รัชดา,บางนา,ปิ่นเกล้าและเกษตรนวมินทร์ รวมไปถึงการขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มลูกค้าโรงแรม โรงพยาบาลมากขึ้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงช่องทางการหารายได้ รวมไปถึงการเพิ่มช่องทางออนไลน์ที่เติบโตมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังเพิ่มการบริการใหม่รองรับช่วงโควิดจากเดิมที่มีการบริการตกแต่งภายในครัวขยายการบริการพิเศษประกอบด้วย ตู้โชว์ตู้เสื้อผ้า,แพคเกจตกแต่งคอนโด (Fit-in Package) และตกแต่งผนัง(Wall Decoration)ซึ่งเป็นการป้องกันความเสี่ยงหากดีเวลลอปเปอร์เลื่อนการพัฒนาโครงการจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ในปีถัดไป

สำหรับตลาดคอนโดสตาร์มาร์คมีสัญญาตกแต่งโครงการพร้อมรับรู้รายได้(Backlog)ในปีที่ผ่านมา มูลค่า1,600ล้านบาท คาดว่าจะส่งมอบงานได้ประมาณ1,000ล้านบาท โดยเฉลี่ยสตาร์มาร์คมีลูกค้าคอนโดปีละ20,000ยูนิต

อย่างไรตามแม้จะปรับกลยุทธ์ธุรกิจรับมือกับวิกฤติก็ยังต้องปรับลดประมาณการรายได้ในปี2563เพราะสถานการณ์โควิดจากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่1,400ล้านบาท ลดลงเหลือ1,100ล้านบาท ซึ่งยังถือว่าเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปี2562ที่มีประมาณ1,000ล้านบาท เนื่องจากจับตลาดบีบวกขึ้นไปและคอนโดส่วนใหญ่50%ราคาตั้งแต่5ล้านบาทขึ้นไป