เบื้องลึก! ฮ่องกงจับ ‘จิมมี่ ไหล่’ เจ้าพ่อสื่อ ทำไมหุ้นบริษัทยังพุ่งแรง?

เบื้องลึก! ฮ่องกงจับ ‘จิมมี่ ไหล่’ เจ้าพ่อสื่อ ทำไมหุ้นบริษัทยังพุ่งแรง?

การจับกุม “จิมมี่ ไหล่” เจ้าพ่อธุรกิจสื่อและนักกิจกรรมสนับสนุนประชาธิปไตยชื่อดังชาวฮ่องกง ถือเป็นผู้ต้องหารายล่าสุดภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ มาทำความรู้จักวีรกรรมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาและทำไมหุ้นบริษัทสื่อของเขายังพุ่งแรงกว่า 300%

เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ (10 ส.ค.) ตำรวจเขตบริหารพิเศษฮ่องกงจับกุมตัว จิมมี่ ไหล่ หรือ ไหล่ จี๋ เย็ง วัย 71 ปี และคนอื่น ๆ อีก 6 คน โดยตั้งข้อหาว่าละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติสำหรับฮ่องกง โดยตำรวจฮ่องกง ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 7 คน รวมถึงเจ้าพ่อสื่อฮ่องกง มีอายุตั้งแต่ 39-72 ปี ถูกจับกุมในข้อหาต้องสงสัยว่า “สมรู้ร่วมคิดกับกำลังจากต่างชาติ” รวมถึงสมคบคิดเพื่อฉ้อฉลและปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ

“ผมพร้อมเข้าเรือนจำแล้ว” เศรษฐีวัย 71 ปีเผย “ถ้าวันนั้นมาถึง ผมจะได้มีโอกาสอ่านหนังสือที่ยังไม่เคยอ่าน สิ่งเดียวที่ผมสามารถทำได้คือ มองโลกบวก”

การที่ไหล่ถูกจับกุมครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะหลายปีที่ผ่านมา เขาเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกงที่มีชื่อเสียง และยังเป็นนักวิจารณ์รัฐบาลปักกิ่งตัวยงด้วย

นักธุรกิจรายนี้เคยถูกจับมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อต้นปีนี้ ฐานเข้าร่วมการชุมนุมผิดกฎหมาย พร้อมกับแกนนำเรียกร้องประชาธิปไตยคนอื่น ๆ โดยเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงเมื่อปีที่แล้ว

159707560296
- จิมมี่ ไหล่ เจ้าพ่อสื่อฮ่องกง ถูกตำรวจจับกุมตัวถึงบ้านพัก เมื่อวันที่ 10 ส.ค. -

แต่การถูกจับกุมครั้งนั้นไม่ได้สั่นคลอนอุดมการณ์ของเจ้าพ่อสื่อฮ่องกงรายนี้ เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อเดือน พ.ค.ว่า จะยังคงปักหลักอยู่ในฮ่องกงเพื่อต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยต่อไป แม้รู้ว่าตัวเองคือหนึ่งในเป้าหมายที่รัฐบาลจีนจ้องใช้กฎหมายความมั่นคงเล่นงานก็ตาม

 

  • วีรกรรมเจ้าพ่อสื่อคู่อริปักกิ่ง

ฉายาเจ้าพ่อสื่อของนักธุรกิจวัย 71 ปีมาจากการเป็นเจ้าของบริษัท “เน็กซ์ ดิจิทัล” (Next Digital) ที่มีสื่อชื่อดังอยู่ในมืออย่างหนังสือพิมพ์ “แอ๊ปเปิ้ล เดลี่” (Apple Daily) และนิตยสาร “เน็กซ์ แมกกาซีน” (Next Magazine) ซึ่งวางจำหน่ายในฮ่องกงและไต้หวัน

ช่วงที่มีการประท้วงในฮ่องกงเมื่อเดือน ก.ย. ปีก่อน ไหล่ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ผู้ชมนุมประท้วงในฮ่องกงพร้อมที่จะตายเพื่อสิ่งที่พวกเขาเรียกร้อง นั่นคือ “ประชาธิปไตย” และอาจได้เห็นปฏิบัติการปราบปรามประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่งอีกครั้ง หากสถานการณ์เป็นเช่นนั้น โลกทั้งใบจะหันมาเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลปักกิ่ง

อย่างไรก็ดี แม้สถานการณ์ประท้วงครั้งนั้นไม่ได้ลงเอยถึงขั้นนองเลือดรุนแรงเหมือนกับเหตุการณ์จัตุรัสเทียนอันเหมิน แต่ก็มีผู้ประท้วงและตำรวจได้รับบาดเจ็บกันเป็นจำนวนมากจากเหตุการณ์ปะทะระหว่าง 2 ฝ่ายที่ยืดเยื้อหลายเดือน

ก่อนจะเป็นเศรษฐีธุรกิจสื่อ ไหล่ซึ่งเกิดในมณฑลกวางโจวของจีนก่อนย้ายมาตั้งรกรากในฮ่องกงตั้งแต่อายุ 12 ปี เริ่มต้นทำงานในโรงงานเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง และเมื่ออายุได้ 25 ปี เขาได้เปิดธุรกิจเสื้อผ้าเป็นของตัวเองด้วยการรับผลิตเสื้อกันหนาวให้บรรดาผู้ค้าปลีกในสหรัฐจนประสบความสำเร็จ และก่อตั้งเสื้อผ้าแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง “จิออดาโน” (Giordano) เมื่อปี 2524

แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ปราบปราบนักศึกษาที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2532 ไหล่จึงตัดสินใจเลิกธุรกิจเสื้อผ้าที่กำลังรุ่งเรือง มาทำธุรกิจสื่อแทน เพื่อเป็นกระบอกเสียงในการเรียกร้องประชาธิปไตย

159707578137

ที่ผ่านมา เจ้าพ่อสื่อฮ่องกงรายนี้มีบทบาทอย่างมากในการประสานงานการประท้วงต่อต้านทั้งในฮ่องกงและไต้หวัน โดยหนังสือพิมพ์แอ๊ปเปิ้ล เดลี่ มักจะนำเสนอข่าวไปในทางเดียวกับผู้ประท้วง

ข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส (Forbes) ระบุว่า ไหล่มีความมั่งคั่งลดลงอย่างต่อเนื่องจากที่เคยรวยที่สุดในฮ่องกงด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1,200 ล้านดอลลาร์ในปี 2551 เหลือไม่ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ไหล่เคลื่อนไหวเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้นานาชาติเข้ามาช่วยเหลือฮ่องกง รวมถึงไปเยือนกรุงวอชิงตันของสหรัฐอยู่บ่อยครั้ง

เมื่อเดือน ก.ค. 2562 ไหล่บินไปพบปะกับไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี และไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐถึงกรุงวอชิงตัน เพื่อหาแนวร่วมสนับสนุนประชาธิปไตยฮ่องกง และยิ่งตอกย้ำว่า เจ้าพ่อสื่อรายนี้เป็นคนพิเศษของสหรัฐ ขณะที่ปักกิ่งตราหน้าเขาว่า “คนขายชาติ”

 

  • ก.ม.ความมั่นคง “เชือดไก่ให้ลิงดู”

กฎหมายความมั่นคงที่จีนบังคับใช้กับฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา กำหนดโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิตสำหรับความผิดฐานล้มล้างการปกครอง, แบ่งแยกดินแดน, ก่อการร้าย และสมคบคิดต่างชาติ ซึ่งบรรดานักวิจารณ์มองว่า เป็นการกดขี่เสรีภาพในเกาะกึ่งปกครองตนเองแห่งนี้

ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนเชื่อว่า กฎหมายความมั่นคงจะช่วยฟื้นเสถียรภาพกลับคืนมา หลังจากฮ่องกงต้องเผชิญกับเหตุชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่ยืดเยื้อและรุนแรงเมื่อปีที่แล้ว

ก่อนหน้านี้มีนักเคลื่อนไหวในฮ่องกงถูกจับฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคงไปแล้ว 15 คน ในจำนวนนี้รวมถึงนักศึกษาอายุระหว่าง 16-21 ปี ที่โพสต์ข้อความปลุกระดมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้เกิดการล้มล้างอำนาจรัฐและแบ่งแยกดินแดนฮ่องกงเมื่อเดือนที่แล้ว

ขณะที่กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติสร้างความหวั่นวิตกและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของชาวฮ่องกงจำนวนไม่น้อย

กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต่อต้านรัฐบาลจำใจต้องยุติการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม “ฮ่องกง เนชันแนล ฟรอนต์” ซึ่งมีเป้าหมายเรียกร้องเอกราช รวมถึงกลุ่ม เดโมซิสโต (Demosisto) ของ “โจชัว หว่อง” ซึ่งสนับสนุนการปฏิรูปประชาธิปไตยในฮ่องกง ขณะที่นักเคลื่อนไหวบางส่วนหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ

 

  • เปิดปัจจัยหนุนหุ้นบริษัท

หลังถูกทางการจับกุม ราคาหุ้นของบริษัทเน็กซ์ ดิจิทัลของไหล่ ทะยานถึง 344% มาอยู่ที่ 0.40 ดอลลาร์ฮ่องกงระหว่างการซื้อขายในวันจันทร์ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2562 และทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทพุ่ง 817 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงในวันเดียว ก่อนปิดตลาดที่ 0.255 ดอลลาร์ฮ่องกงเพิ่มขึ้น 183%

สแตนลีย์ หว่อง อดีตคอลัมนิสต์ของสื่อในเครือเน็กซ์ ดิจิทัล เผยว่า ได้ซื้อหุ้นเน็กซ์ ดิจิทัล จำนวน 1.2 ล้านหุ้นก่อนช่วงเที่ยงวันจันทร์ เพื่อแสดงพลังสนับสนุนบริษัทและปล่อยขายในเวลาต่อมาจนได้กำไร 75,000 ดอลลาร์ฮ่องกง โดยเขาจะนำกำไรที่ได้จากการขายหุ้นนี้ไปสมทบทุนการศึกษาสำหรับมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง

ขณะเดียวกัน โบรกเกอร์บางส่วนคาดว่า ไหล่ ในฐานะประธานเน็กซ์ ดิจิทัล อาจจำต้องขายบริษัทของตัวเอง ขณะที่บรรดานักลงทุนมองว่า เหตุที่หุ้นเน็กซ์ ดิจิทัลพุ่งแรง อาจเป็นเพราะแนวโน้มเกี่ยวกับผู้บริหารคนใหม่ของบริษัท

159707579722

“หลังเหตุการณ์นี้ ตลาดน่าจะมองไปข้างหน้า บางที หากประธานบริษัทไม่อยู่แล้ว ก็อาจมีอีกคนเข้ามาบริหารบริษัทนี้ในทิศทางที่แตกต่างจากเดิม” เคนนี่ อึ้ง นักวิเคราะห์บริษัทโบรกเกอร์ “เอฟเวอร์ไบรท์ ซุน ฮุง ไค” ในฮ่องกงกล่าว

ขณะที่ผู้บริหารของหนังสือพิมพ์แอ๊ปเปิ้ล เดลี่ เผยว่า หนังสือพิมพ์ฉบับวันอังคารที่ 11 ส.ค. จะยังตีพิมพ์ตามปกติ ซึ่งบรรดานักเคลื่อนไหวในฮ่องกงก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่

“ต่อให้แอ๊ปเปิ้ล เดลี่ ตีพิมพ์กระดาษเปล่าทั้งฉบับในวันพรุ่งนี้ เราก็จะออกไปซื้อหนังสือพิมพ์จนกว่าจะเกลี้ยงแผง” โจชัว หว่อง โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวเมื่อวันจันทร์

ส่วน เท็ด ฮุย ส.ส.ฮ่องกง ซึ่งสนับสนุนประชาธิปไตยเช่นกัน เรียกร้องให้ประชาชนอุดหนุนหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

----------------

อ้างอิง: Reuters1, Reuters2, France24, AFP