อ่อนตัว

อ่อนตัว

ขึ้นขาย โดยมีจุดซื้อคืนแนวรับ (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ : คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1333 / 1340 จุด แนวรับ 1311 / 1303 จุด ทางเทคนิคยังคงเป็นสัญญาณขาลง หลังดัชนีฯ สัปดาห์ก่อนไม่สามารถผ่านแนวต้านสาคัญทางเทคนิคที่ 1345 จุดขึ้นไปได้ ส่วนปัจจัยลบ คือ การวิตกต่อสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

ประเด็นที่มีผลต่อตลาด วันนี้

1) ความเสี่ยงต่อการเกิดสงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯ รอบใหม่ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ สั่งแบน TikTok, WeChat และการเยือนไต้หวันครั้งแรกรอบสิบปีของรมว. สาธารณสุขสหรัฐฯ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก (-หุ้นบลูชิพของไทย)

2) ข้อสรุปมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าช้า อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ (การอ่อนตัวเป็นจังหวะสะสมหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์)

3) รายงานผลกาไรบจ. อาจส่งผลต่อ Upward/Downward) Earnings Revision รอบใหม่ (วันศุกร์ AMA RS INTUCH รายงานกาไรดีกว่าคาดการณ์ของตลาด)

4) คณะรัฐบาลชุดใหม่ไทยเตรียมเร่งออกมาตรการ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัว (+กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง วัสดุก่อร้าง โครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน) ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ Taiwan-รมว.กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ Alex Azar จะเป็นผู้บริหารระดับสูงคนแรกในรอบสิบปีของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนไต้หวัน / China-รายงาน CPI เดือน ก.ค. คาด 2.6% YoY (Vs เดือน มิ.ย.2.5% YoY) PPI เดือน ก.ค. คาด -2.5% YoY (Vs เดือน มิ.ย. -3% YoY)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยร่วงต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยอยู่ในแดนลบตลอดการซื้อขาย ในกรอบ 1321-1333 จุด ก่อนมาปิดที่ระดับ 1324.40 จุด -8.82 จุด -0.66% วอลุ่ม 4.43 หมื่นล้านบาท กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ -2.01% ขนส่งและโลจิสติกส์ -1.47% แต่กลุ่มธุรกิจการเกษตร +2.1% โดยมีหุ้นบวก >4% IIG STGT PTL ASIAN HTC WIIK IMH SIMAT ส่วนหุ้นร่วง >4% SUPER CRANE HFT APURE SUN MALEE PJW TPCH

+/- ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขึ้นต่อเป็นวันที่หก DJ +0.17% S&P500 +0.06% ยกเว้น Nasdaq -0.87% เป็นผลจากรายงานจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค. ดีกว่าคาดการณ์ (1.763 ล้านตำแหน่ง Vs คาด 1.48 ล้านตำแหน่ง และอัตราว่างงานเดือน ก.ค. ลดลงสู่ระดับ 10.2% Vs คาด 10.6%) แต่กลุ่มเทคโนโลยีร่วง -1.56% นำโดย Alibaba -5.1% JD.Com -4.39% หลังประธานาธิบดีทรัมป์สั่งแบนแอฟพิเคชั่นจีน ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดบวก DAX +0.66% CAC40 +0.09% FTSE +0.09% จากรายงานผลกำไรบจ. ที่ดีกว่าคาดกลุ่มเทเลคอม เทคโนโลยี

- น้ำมันดิบปิดลบต่อเนื่อง และทองคำร่วงวันแรก หลังขึ้น 5 วัน: น้ำมันดิบปิดร่วงเป็นวันที่สอง WTI -USD0.73 ปิดที่ USD41.22/บาร์เรล Brent -USD0.69 ปิดที่ USD44.4/บาร์เรล วิตกการระบาดของ COVID-19 กระทบต่ออุปสงค์น้ำมันดิบโลก ส่วนทองคำปรับตัวลงแรงเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ ปิดที่ USD2,028 ต่อออนซ์ -USD41.40 หรือ -2% จากแรงขายทำกำไร หลังจากค่าเงิน USD กลับมาแข็งค่า

ประเด็นสำคัญ

- USA: มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ-เราคาดว่าความล่าช้าในการออกมาตรการฯและขนาดของวงเงินที่อาจมีจากัดเพียง USD1Trn (Vs คาด USD1.5-2.5Trn) จะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นโลกสัปดาห์นี้ ในทางตรงกันข้าม หากการเจรจาสำเร็จคาดว่าเป็นข่าวดีจำกัด เนื่องจากตลาดรับรู้เรื่องดังกล่าวไปตั้งแต่หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

- Fund Flow: ต่างชาติยังคงขายสุทธิ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 3 - 7 ส.ค.)-ต่างชาติกลับมาขายตลาดหุ้นเอเชีย 6 ชาติ ไม่รวมญี่ปุ่น เป็นสัปดาห์แรกในรอบ 3 สัปดาห์ –USD710mn (Vs สัปดาห์ก่อน +USD1,243mn) โดยซื้อเพิ่มตลาดหุ้นอินเดีย แต่ขายตลาดหุ้นที่เหลือ ส่วนตลาดหุ้นไทยถูกขายเป็นสัปดาห์ที่ 4 (เป็นสัปดาห์ที่ 8 ในรอบ 9 สัปดาห์) จำนวน –USD141mn (Vs สัปดาห์ก่อน –USD2mn)

+ USA: การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค. สูงกว่าคาดเป็น 1.76 ล้านตำแหน่ง (Vs ตลาดคาด 1.48 ล้านตำแหน่ง แต่น้อยกว่าเดือน มิ.ย. ที่ 4.8 ล้านตำแหน่ง) อัตราว่างงานลดลงมาอยู่ที่ 10.2% (Vs ตลาดคาด 10.6% และเดือน มิ.ย. 11.1%)

+ China: รายงานการค้าระหว่างประเทศดีกว่าคาดการณ์ โดยเกินดุลการค้าสูงกว่าคาดถึง +USD62.33bn ส่งออก +7.2% YoY นำเข้า -1.4% YoY (Vs คาดการณ์เกินดุล +USD42bn ส่งออก -0.2% YoY นำเข้า +1% YoY และดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. +USD46.42bn ส่งออก +0.5% นำเข้า +2.7%)

- USA: ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามคำสั่งประธานาธิบดี ห้ามคนอเมริกันหรือบริษัทอเมริกาทำธุรกรรมใดๆ กับ ByteDance มีผลบังคับใช้ในอีก 45 วัน หลังรมว. ตปท. Mike Pompeo เรียกร้องให้แบน application ของจีนออกจากแพลตฟอร์มของบริษัทสหรัฐฯ เพราะไม่น่าไว้ใจและเป็นภัยคุกคามข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน

- SET: หลักทรัพย์ติด Cash Balance ตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค. - 18 ก.ย. ได้แก่ CFRESH DOHOME SICT

แนะนำ ขึ้นขาย โดยมีจุดซื้อคืนแนวรับ (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: STA CPF PTG

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: CPF DELTA GLOBAL STA PTL

Derivatives: รอเปิด Short S50U20 เมื่อดีดตัว (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)