PTTGC - ถือ

PTTGC - ถือ

ผลประกอบการ 2Q63: เป็นไปตามคาด

Event

กำไรสุทธิของ PTTGC ใน 2Q63 อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท (-24% YoY แต่ดีขึ้น QoQ จากขาดทุนสุทธิ 8.8 พันล้านบาทใน 1Q63) โดยผลประกอบการเป็นไปตามประมาณการของเราและ Bloomberg consensus ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีผลขาดทุนสุทธิ 7.1 พันล้านบาทใน 1H63

Impact

กำไรสุทธิใน 2Q63 ลดลง 24% YoY แต่ดีขึ้น QoQ จากที่ขาดทุนสุทธิใน 1Q63

กำไรที่ลดลง YoY เป็นเพราะราคา HDPE/LLDPE/LPDE ลดลง 19-30% เหลือแค่ US$760/754/866/ton ใน 2Q63 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสิบปี เพราะถูกกดดันจากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาก และราคาน้ำมันดิบที่ต่ำเนื่องจากสงครามราคาน้ำมันในตลาดโลกในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน แต่อย่างไรก็ตามกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ เป็นเพราะผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันสุทธิ (รวมการกลับรายการ NRV) ลดลง 90%QoQ เหลือ 899 ล้านบาท

ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ:

i) กำไรจากธุรกิจโรงกลั่นพุ่งสูงขึ้น QoQ เนื่องจากผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันสุทธิ (รวมการกลับรายการ NRV) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 90% QoQ เหลือแค่ 899 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม base GRM ของ PTTGC ยังคงลดลง 34% QoQ เหลือ US$2.3/bbl หลังจากที่ spread ของน้ำมันเบนซินน้ำมันดีเซล และ LSFO ลดลงถึง 62%, 48% และ 62% QoQ ตามลำดับ เพราะถูกกระทบจากวิกฤติ COVID-19 ในขณะที่บริษัทได้อานิสงส์เพียงเล็กน้อยจากต้นทุน crude premium ในตะวันออกกลางที่ลดลงเพราะบริษัทแทบไม่ได้ซื้อน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางเลยใน 2Q63 ในขณะเดียวกันอัตราการกลั่นก็ยังทรงตัว QoQ อยู่ที่ 149KBD

ii) กำไรจากธุรกิจ olefins เพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น QoQ จาก 81%เป็น 100% เนื่องจากไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน OLE2/1 กำลังการผลิต 825KTA, โรงงาน OLE2/2 กำลังการผลิต 450KTA และโรงงาน Oleflex กำลังการผลิต 100KTA นานประมาณหนึ่งเดือนเหมือนใน 1Q63 แต่อย่างไรก็ตาม ราคา HDPE/LLDPE/LDPE ยังคงลดลง 9-11% QoQ ทำสถิติต่ำสุดในรอบสิบปีที่ US$760/754/866/ton

iii) กำไรจากธุรกิจ aromatics เพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจาก spread ของ PX-over-condensate เพิ่มขึ้น 4%QoQ เป็น US$271/ton เนื่องจากต้นทุน condensate ลดลง หลังจากที่อุปสงค์ condensate ถูกกดดันจากการใช้น้ำมันเบนซินและน้ำมันเครื่องบินลดลงเพราะสถานการณ์ Covid-19 ทั้งนี้อัตรา
การใช้กำลังการผลิตของธุรกิจ aromatics ขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ จาก 97% เป็น 99%

iv) ค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง 8% QoQ เหลือ 3.3 พันล้านบาทใน 2Q63 เนื่องจากบริษัทสามารถลดต้นทุนการดำเนินงานให้ได้ตามเป้ าหมาย 10% ในปีนี้

v) สำหรับรายการพิเศษ บริษัทบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 958 ล้านบาทใน 2Q63 จากที่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 1.7 พันล้านบาทใน 1Q63 เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น 1.82 บาท/US$ ใน 2Q63

Valuation & action

ถึงแม้ว่าเราจะยังคงคำแนะนำ ถือ และให้ราคาเป้าหมาย 1H64 ที่ 51.00 บาท อิงจาก EV/EBITDA ที่ 7.0x แต่เราก็มองบวกกับแนวโน้ม spread ของ HDPE ที่ฟื้นตัวเป็นประมาณ US$530/ton เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากระดับที่แย่ที่ต่ำกว่า US$500/ton ใน 1H63 เพราะถูกกดดันจากโรงงาน PE ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาก ทั้งนี้เราจะกลับมาทบทวนประมาณการกำไรปีนี้ของเราและคำแนะนำอีกครั้ง หลังจากที่ได้เข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์ของ PTTGC ในวันที่ 14 สิงหาคม

Risks

ราคาน้ำมันดิบ, GRM และ spread ของปิโตรเคมีลดลง