คณะอัยการ สั่งตร.สอบความเร็วรถคดีบอส-ตั้งคดีใหม่เสพโคเคน ขีดเส้น 20 ส.ค.

คณะอัยการ สั่งตร.สอบความเร็วรถคดีบอส-ตั้งคดีใหม่เสพโคเคน ขีดเส้น 20 ส.ค.

แถลงด่วน! คณะทำงาน "อัยการสูงสุด" สั่งคดีความเร็วรถบอส สอบพยาน "ดร.สธน-ดร.สามารถ-นายกสภาวิศวกร" พร้อมสั่งตั้งสอบคดีใหม่ "เสพโคเคน" ขีดเส้น 20 ส.ค. นี้

คณะทำงานอัยการ ตามคำสั่งอัยการสูงสุด แถลงข่าวกรณีคดีนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา เบื้องต้นได้สั่งตำรวจในฐานะเป็นพนักงานสอบสวน (พงส.) ให้สอบพยาน ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์จุฬาฯ กรณีความความเร็วรถ และได้เคยส่งผลการสอบสวนหรือไม่ และให้สอบพยาน ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ กรณีคำนวณความเร็วด้วย

อีกทั้ง ข้อมูลสื่อว่า ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม กรณีใบอนุญาตขาดอายุ ให้สอบพยาน นายกสภาวิศวกร ในกรณีนี้ ส่วนพบสารโคเคนในตัวนายวรยุทธ หรือ บอส ให้ตำรวจเอาผิดข้อหาเสพยาติด แจ้งดำเนินคดีเป็นคดีใหม่ และให้ตำรวจส่งรายงานการสอบสวนภายใน 20 ส.ค. นี้

รายละเอียดการแถลงข่าว 

นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา , นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองอธิบดีอัยการ , นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้า การแจ้งให้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ช่วงเช้าวันนี้ (10 ส.ค.)

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า หลังแถลงข่าวเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา อัยการสูงสุดได้ตั้งคณะทำงานดำเนินคดี เพื่อพิจารณาคำสั่งคดีอาญา ทั้งหมด 6 คน โดยมี นายอิทธิพร เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และมีนายชาญชัย เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งให้คณะทำงานมีหน้าที่ในการเรียกสำนวนคดีของนายวรยุทธ มาเพื่อพิจารณาสั่งให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมหากมีการซักถาม โดยคณะทำงานได้เรียกประชุม และตรวจสำนวนโดยละเอียดแล้ว

นายอิทธิพร ระบุด้วยว่า จากการที่คณะทำงานได้ตรวจสอบกรณีความเร็วรถของนายวรยุทธ ปรากฎข้อเท็จจริงว่า มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน ว่าความเร็วที่ปรากฏในสำนวนอาจจะไม่ใช่ความเร็วที่จะทำให้สำนวนยุติได้ คณะทำงานพิจารณาแล้ว จึงมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนพยาน เพิ่มเติม คือ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในประเด็นเรื่องเคยร่วมตรวจสอบความเร็วของรถ ณ จุดที่ชนหรือไม่ หากเคย-ความเร็ว ณ จุดที่ชนอยู่ที่เท่าไร , มีวิธีการคำนวนความเร็วรถอย่างไร , และเคยส่งรายงานให้กับพนักงานสอบสวนหรือไม่ ทั้งนี้หากมีเอกสารการคำนวณให้จัดส่งมาเพื่อประกอบในสำนวนด้วย

และคณะทำงาน ยังมีความให้สอบสวนเพิ่มเติม นายกสภาวิศกร ถึงประเด็นใบประกอบวิชาชีพของ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ที่ขาดการต่อใบอนุญาตประกอยวิชาชีพ จะมีผลต่อการออกเอกสารรับรองมากน้อยน้อยเพียงใด และการคำนวนของ รศ.ดร.ประสิทธิ์ มีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด

ส่วนกรณีพบสารโคเคนในร่างกายนายวรยุทธนั้น เห็นว่าในสำนวนมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ได้ จึงให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนายวรยุทธ เป็นคดีใหม่

โดยคำสั่งทั้งหมดคณะทำงานได้สั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายใน 20 ส.ค.นี้

ขณะที่นายชาญชัยกล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวเป็นการที่พนักงานอัยการมีความเห็นให้พนักงานสอบสวน สอบสวนเพิ่มเติมใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ ประเด็นการตรวจวัดความเร็ว เนื่องจากมีเหตุเชื่อได้ว่า หากได้พยานหลักฐานใหม่ จะสามารถดำเนินคดีลงโทษผู้ต้องหาได้ ส่วนพยานหลักฐานในการตรวจสอดความเร็ว จะใช้ผลตรวจที่เผยแพร่ตามสื่อมวลชนหรือใช้วิธีการอื่นในการคำนวณความเร็วใหม่ก็สามารถกระทำได้ รวมทั้งหากพบคลิปภาพความเร็วของรถ ซึ่งจะสามารถนำมาตรวจวัดใหม่ ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะจะถือเป็นพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งการที่ความเร็วเปลี่ยนแปลวไม่ได้หมายความว่า ความเห็นเดิมจะเป็นเท็จ ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นกระบวนการเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ยุติในการคำนวนความเร็วที่น่าเชื่อถือได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีธงในการทำสำนวน แต่จะเป็นการแสวงหาข้อเท็จจริงให้ปรากฎ

สำหรับรายชื่ออัยการ คณะทำงานใหม่ ดำเนินคดีบอส อยู่วิทยา

นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอธิบดีอัยการ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน
นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองอธิบดีอัยการ เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน
นายอุทัย สังขจร อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เป็นคณะทำงาน
นายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษฝ่ายสำนักคดีอาญา เป็นคณะทำงานและเลขานุการ
นายนรา เขมอุดลวิทย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ
นายสมใจ โตศุกลวรรณ์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน