ผลเลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ 'กรุงศรีวิไล' ชนะตอกย้ำ! 'เพื่อไทย-ก้าวไกล' แพ้คะแนนตก

ผลเลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ 'กรุงศรีวิไล' ชนะตอกย้ำ! 'เพื่อไทย-ก้าวไกล' แพ้คะแนนตก

จับประเด็นร้อน! ผลเลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการ "กรุงศรีวิไล" ชนะตอกย้ำ! "เพื่อไทย-ก้าวไกล" แพ้คะแนนตก

ชัยชนะของ "กรุงศรีวิไล สุทินเผือก" จากพรรคพลังประชารัฐ ในศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 5 สมุทรปราการ ถือเป็นการ "สะท้อนกลยุทธ์หาเสียง" ของฝ่ายรัฐบาลและแกนนำ พปชร. หลังจากสามารถเอาชนะศึกเลือกตั้งซ่อมก่อนหน้านี้ ไล่มาตั้งแต่ นครปฐม, ขอนแก่น และลำปาง

น่าสนใจที่คะแนนของ "กรุงศรีวิไล" ได้มาครั้งนี้ 46,747 คะแนน ซึ่งการเลือกตั้งทั่วไปปี 62 มี 41,745 คะแนน เท่ากับได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นอีก 5 พันคะแนน

ขณะที่ฝ่ายค้าน "สลิลทิพย์ สุขวัฒน์" จากพรรคเพื่อไทย ได้ 21,540 คะแนน ซึ่งการเลือกตั้งทั่วไปปี 62 มี 33,007 คะแนน เท่ากับว่าลดลงราว 1.1 หมื่นคะแนน ส่วนพรรคก้าวไกล (เดิมพรรคอนาคตใหม่) เปลี่ยนคนลงเลือกตั้ง ส่ง "อิศราวุธ ณ น่าน" สู้ศึกทำได้แค่ 19,977 คะแนน ต่างจากเลือกตั้งทั่วไปปี 62 ที่มีฐาน 31,430 คะแนน และพรรคเสรีรวมไทย "มานะ บุญนาค" ได้ 8,905 คะแนน

รวมคะแนนฝ่ายค้าน 4 พรรค ได้ 5 หมื่นคะแนนในศึกเลือกตั้งซ่อมเขต 5 สมุทรปราการ ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาล ส่งพรรคเดียวได้ 4.6 หมื่นคะแนน และประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เพียง 58.20% หรือ 103,194 คน ต่างจากเลือกตั้งทั่วไปปี 62 มีคนออกมาใช้สิทธิ์ราว 122,000 คน เท่ากับคนไม่ออกมาเลือกตั้งเหมือนครั้งที่แล้วราว 2 กว่าหมื่นคน

หากประเมิน "เลือกตั้งซ่อม" ในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา ส่วนใหญ่พรรคฝ่ายรัฐบาลสามารถรักษาพื้นที่ได้มากกว่า บนเงื่อนไขเรื่องกลไกเจ้าหน้าที่รัฐ , นโยบายรัฐบาลที่ออกมาจนกลายเป็นคะแนนนิยม และสรรพกำลังที่ส่งให้ "หัวคะแนน" เดินเคาะประตูบ้านเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเป็นกอบเป็นกำ

ทว่า ก็มีบางครั้งเหมือนกันว่า "พรรคฝ่ายค้าน" ที่สามารถเอาชนะศึกเลือกตั้งซ่อมได้ บนเงื่อนไขว่า "กระแสแรงจริง" ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไม่ชอบนโยบายรัฐบาล และคะแนนนิยมนายกฯตก เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ปัจจัยที่ทำให้ "กรุงศรีวิไล" สามารถรักษาแชมป์ไว้ได้ ประการแรก คือเป็นดารานักแสดงแม้จะรุ่นใหญ่แล้ว แต่พี่น้องประชาชนก็ยังจดจำได้ ,

ประการที่สอง พรรคฝ่ายค้าน อย่าง เพื่อไทยและก้าวไกล นอกจากมุ่งเจาะฐานเสียงคนไม่ชอบรัฐบาลให้ได้มากที่สุด มีกระทบกระทั่งกันบ้าง จึงเป็นการทำลายแนวร่วม แถมพรรคเสรีรวมไทยยังลงสนามชิงคะแนนได้เกือบหมื่นด้วย ทำให้เสียงแตกอย่างเห็นได้ชัด

ต่างจาก กรณีเลือกตั้งซ่อมก่อนหน้านี้ กรณีนครปฐมและขอนแก่น ทั้งเพื่อไทยและก้าวไกล ต่างหลบหลีกกันเพื่อต่อสู้กับพรรคพลังประชารัฐแต่ก็แพ้

ย่อมสะท้อนว่า การปลุกกระแสไล่รัฐบาล หรือ "กระแสเบื่อประยุทธ์" ยังไม่มีผลที่แรงพอที่จะโค่น พปชร. ได้ในเร็ววันนี้

โจทย์ใหญ่ที่พรรคฝ่ายค้านแพ้และคะแนนตกวันนี้.. เพราะปลุกกระแสไม่แรงพอ และหัวคะแนนไม่มีแรงเดิน!!