บัวแก้ว เผย เจ้าหน้าที่สถานทูต ‘บาห์เรน-ซาอุฯ’ ติดโควิด

บัวแก้ว เผย เจ้าหน้าที่สถานทูต ‘บาห์เรน-ซาอุฯ’ ติดโควิด

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผย มีข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยใน “บาห์เรน-ซาอุดิอาระเบีย” ติดโควิด-19 ยืนยันจะไม่กระทบงานบริการด้านกงสุลดูแลประชาชน

นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีการติดเชื้อโรคโควิด-19 ของเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมานามา ว่า กระทรวงได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน ว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค. มีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของสถานทูตฯ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ เข้ารับการตรวจเชื้อโรคโควิด-19 และได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ 1 คน อาการไม่รุนแรงมากนักและได้รับการรักษาตัวที่บ้านพักภายใต้การดูแลของแพทย์ 

สถานทูตฯได้เฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้มาขอรับบริการต่าง ๆ ของสถานทูตฯ ตลอดจนบุคลากรทุกคน จึงของดให้บริการด้านกงสุลจนถึงวันที่ 22 ส.ค. 2563 และขอเลื่อนการดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับเที่ยวบินพิเศษออกไปก่อน ทั้งนี้ สถานทูตฯ จะพยายามอย่างดีที่สุดที่จะจัดให้มีเที่ยวบินพิเศษกลับประเทศไทยในเดือนส.ค.นี้ โดยจะประกาศขั้นตอนและแนวทางการดำเนินการต่าง ๆ ให้คนไทยในบาห์เรนทราบอีกครั้งเมื่อสถานการณ์มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ส่วนสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย รายงานการติดตามอาการข้าราชการ 1 คน และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 1 คน ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 ว่า ได้รับการดูแลอย่างดีจากแพทย์ โดยข้าราชการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอาการยังไม่รุนแรงมากและพักรักษาตัวที่บ้านพัก ทั้งนี้ แพทย์ไทยจากกรมการแพทย์ได้ช่วยให้คำแนะนำและให้กำลังใจผู้ติดเชื้อทางแอพพลิเคชั่นไลน์อย่างสม่ำเสมอด้วย ทั้งนี้ สถานทูตฯได้แจ้งให้ผู้ประสงค์จะขอรับบริการด้านกงสุลหรือขอความช่วยเหลือในเรื่องใด ๆ ติดต่อนัดหมายล่วงหน้า เพื่อเป็นไปตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคด้วย

กระทรวงฯ ในฐานะหน่วยงานหลักในการดูแลคนไทยในต่างประเทศ โดยมีสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศเป็นด่านหน้า ได้ให้การดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพของคนไทยกว่า 1.6 ล้านคนทั่วโลก ไม่เคยละทิ้ง โดยผ่านการเยี่ยมเยียน การแจกถุงยังชีพ การพูดคุยผ่านระบบทางไกล การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจผ่านทางออนไลน์ การประสานกับหน่วยงานเจ้าบ้านในการดูแลคนไทย รวมทั้งคนไทยที่เจ็บป่วยหรือติดเชื้อ และอำนวยความสะดวกคนไทยเดินทางกลับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องอย่างสุดความสามารถ ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ทั่วโลก ซึ่งนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2563 ได้นำคนไทยซึ่งติดค้างอยู่ในต่างประเทศกลับประเทศไทยกว่า 67,000 คนแล้ว และยังคงเดินหน้านำคนไทยกลับประเทศอย่างปลอดภัย

อย่างไรก็ดี​ ​บุคลากรข​องกระทรวงการ​ต่างประเทศ​ได้ทำงานอย่างทุ่มเทและเสียสละตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา​ในสภาวะเสี่ยง กระทรวงการต่างประเทศจึงมีความห่วงใยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ที่อยู่ด่านหน้าในต่างประเทศ และต้องเผชิญความเสี่ยงจากการติดโรคในขณะที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลคนไทย จึงได้กำชับให้ทุกสำนักงานดูแลสวัสดิภาพของบุคลากรอย่างดีที่สุดด้วย และขอแนะนำให้คนไทยในต่างประเทศดูแลสุขอนามัย และปฏิบัติตามมาตรการของแต่ละท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด