'กมธ.งบ-ปปช.' เรียกสอบ! อนุฯขอใต้โต๊ะแลกตัดงบ

'กมธ.งบ-ปปช.' เรียกสอบ! อนุฯขอใต้โต๊ะแลกตัดงบ

กมธ.งบ 64 เรียกประธานอนุ กมธ. แผนบูรณาการ 2 ชี้แจง ปมอธิบดีกรมน้ำบาดาลปูดเรียก 5 ล้านแลกไม่ตัดงบ ขณะที่ ป.ป.ช. เร่งตรวจสอบข้อมูล จ่อชงเข้าที่ประชุม 11 ส.ค. เล็งเรียกอธิบดีกรมน้ำบาดาลให้ข้อมูล

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณ ปี 2564 ชี้แจงวานนี้ (9 ส.ค.) ถึงกรณีนายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยข้อมูลในระหว่างประชุมอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ว่า ถูกอนุกมธ.บางคน เรียกเงิน 5 ล้านบาทแลกกับการไม่ตัดงบประมาณว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในการประชุม เมื่อวันพุธที่ 5 ส.ค.2563 ในห้องประชุมคณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ที่มีนางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย เป็นประธานฯ อนุ กมธ.

กรณีนี้ ทางคณะกรรมาธิการงบฯ ปี 64 ไม่ได้นิ่งนอนใจ ต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น เพราะหากเป็นเรื่องจริง จะเป็นเรื่องที่เสียหายร้ายแรง และเป็นการทุจริตผิดกฎหมาย กระทบต่อความน่าเชื่อถือการทำงานของคณะกรรมาธิการงบประมาณประจำปี 2564 อย่างยิ่ง

ดังนั้นในวันจันทร์ที่ 10 ส.ค. คณะกรรมาธิการงบประมาณฯ 2564 จะเชิญ นางสาวแนน บุณย์ธิดา ประธานอนุกมธ.แผนงานบูรณาการ 2 เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง เวลา 13.00 น. และหากเป็นเรื่องจริงก็จะต้องดำเนินตามกฎหมายต่อไป ไม่มีการละเว้นอย่างแน่นอน

กรณีดังกล่าว มีรายงานว่าในระหว่างการประชุมคณะอนุ กมธ.แผนงานบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ที่มี นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน เมื่อวันพุธที่ 5 ส.ค.2563 ในวาระพิจารณางบประมาณแผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ประกอบด้วย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในส่วนของ 2 กรม คือ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล งบประมาณ 1,276.5 ล้านบาท และกรมทรัพยากรน้ำ งบประมาณ 3,772.8 ล้านบาท งบในส่วนของกระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธิการและผังเมือง 13,103.9 ล้านบาท

โดยเกิดปัญหาระหว่าง อนุ กมธ.กับหัวหน้าส่วนราชการ เนื่องจาก อนุ กมธ.ชุดนี้ ไม่ยอมปล่อยผ่านงบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลในก้อนดังกล่าว จนทำให้นายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมน้ำบาดาล แฉกลางที่ประชุมว่า มีอนุ กมธ.บางคน โทรศัพท์ไปเรียกเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการผ่านงบประมาณให้

และนายศักดา ยังบอกในที่ประชุมด้วยว่า จะนำเรื่องนี้ไปแถลงต่อสื่อมวลชน ต่อมานายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย รองประธาน กมธ.งบ ได้พยายามไกล่เกลี่ยเพื่อยุติปัญหา

สำหรับอนุ กมธ.ชุดนี้ เป็น 1 ใน 8 คณะ ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ปรับลดงบที่ไม่จำเป็น จนกลายเป็นช่องทางหากินของคนไม่สุจริต โดยใช้วิธีเรียกรับเงินจากข้าราชการแลกกับการไม่ตัดงบประมาณ

โดยอนุ กมธ.ทั้ง 8 คณะ ประกอบด้วย 1. อนุกรรมาธิการการฝึกอบรม สัมมนาประชาสัมพันธ์ ค่าจ้างเหมาบริการ ค่าที่ปรึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยี ค่าเช่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ งบดำเนินงาน งบเงินอุดหนุนและงบรายจ่ายอื่น 2.อนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ไอซีที รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียน

3. อนุกรรมาธิการการที่ดินและสิ่งก่อสร้าง 4. คณะอนุกรรมาธิการจังหวัด กลุ่มจังหวัดและแผนบูรณาการพัฒนาพื้นที่ระดับภาค 5. คณะอนุกรรมาธิการท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดเทศบาลนคร เทศบาลเมือง กรุงเทพฯพัทยาและเงินอุดหนุนที่จัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

6. อนุกรรมาธิการด้านการศึกษา 7. คณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 1 และ 8. คณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2

นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์ ( 8 ส.ค.) ถึงกรณีนี้ว่า ป.ป.ช. ยังไม่อาจยกขึ้นมาเป็นเหตุอันควรสงสัยได้ จะต้องเข้าไปตรวจสอบก่อน เช่น อาจจะต้องเชิญนายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมน้ำบาดาล มาชี้แจงเนื่องจากเขาเป็นคนพูดเพื่อสอบถามว่ามีการเรียกรับเงินจริงหรือไม่ ถ้ามีการเรียกรับจริงจากคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือกรรมาธิการ ก็อาจนำเสนอต่อคณะกรรมการป.ป.ช.ว่ามีข้อมูลเพียงพอ เพื่อจะหยิบยกเหตุอันควรสงสัยขึ้นได้ เพราะหากมีความปรากฏต่อคณะกรรมการว่ามีการทุจริตก็สามารถยกขึ้นมาได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ร้อง

เบื้องต้น ต้องเชิญอธิบดีกรมน้ำบาดาลมาให้ข้อมูลก่อน แต่จะต้องมีการนำเสนอต่อเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะกรรมการป.ป.ช.เพื่อทราบก่อนว่า มีข่าวออกมาเช่นนี้ เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย เพราะอยู่ๆ จะไปเชิญคนนั้นคนนี้มาโดยที่ไม่มีเหตุไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้เหตุปรากฏเป็นข่าวเราจึงต้องตรวจสอบก่อนว่าที่ข่าวลงมานั้นมีการพูดเช่นนั้นจริงหรือไม่ มีเหตุการณ์เช่นนั้นจริงหรือไม่

นายนิวัติไชย กล่าวว่า ทางสำนักการข่าวฯ ของป.ป.ช. จะเป็นผู้ประมวลข่าวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพื่อเสนอต่อเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเมื่อถูกหยิบยกขึ้นมา เลขาฯ ก็จะมีอำนาจในการมอบหมายเจ้าหน้าที่ให้ลงไปตรวจสอบข้อมูล จากนั้นรายงานให้คณะกรรมการป.ป.ช.ทราบ

หากคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะมีมติโดยตรง ว่าจากเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าวก็อาจให้เชิญทางนายศักดามาสอบถามข้อเท็จจริงได้ โดยส่งเรื่องไปยังสำนักที่เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งถ้าอนุกรรมาธิการฯงบฯอยู่ในข่ายเป็นข้าราชการการเมือง ก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของ สำนักไต่สวนทุจริตภาคการเมืองและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ

“เชื่อว่าไม่ช้า ขอให้มีการตรวจสอบข่าวเสียก่อน เพราะเบื้องต้นทราบจากที่สื่อมวลชนนำเสนอเท่านั้น ขอให้สำนักการข่าวฯได้รวบรวมหากทันก็นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ในวันอังคารที่ 11 ส.ค.นี้เลย” โฆษก ป.ป.ช.ระบุ