'หลักชัยเมืองยาง'พร้อมรับทุนตั้งโรงงานถุงมือ2 หมื่นล้าน

'หลักชัยเมืองยาง'พร้อมรับทุนตั้งโรงงานถุงมือ2 หมื่นล้าน

"หลักชัยเมืองยาง"พร้อมรับนักลงทุนตั้งโรงงานถุงมือ2 หมื่นล้านบาท "ไทยฮั้ว" คาดแล้วเสร็จอีก 5เดือน ทำราคายางปรับตัวสูงขึ้นยาวถึงสิ้นปี แต่ไม่ถึงกก.ละ70บาท

นายหลักชัย กิตติพล ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท ไทยเบคก้า เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง จ.ระยอง เปิดเผยว่า นิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง จึงมีนักลงทุนหลายประเทศรวมทั้งไทยสนใจเข้ามาตั้งโรงงานอุตสาหกรรมถุงมือยาง

ในเร็วๆนี้ บริษัทไทยฮั้วยางพารา จำกัด(มหาชน)จะร่วมทุนด้วย คาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 3-5 เดือน และติดตั้งเครื่องจักรได้แล้วเสร็จ ส่วนนักลงทุนต่างประเทศที่อยู่ระหว่างเจรจา เช่น สหภาพยุโรป(อียู) สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย จีน ไต้หวัน และญี่ปุ่น เป็นต้น วงเงินลงทุนรวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ต้องการตั้งโรงงานขนาดกลางวงเงินลงทุนเฉลี่ยโรงงาน 5,000 ล้านบาท

 

 

ส่วนปัจจัยที่ต่างประเทศสนใจตั้งโรงงานในไทย เพราะมีวัตถุดิบพร้อม ระบบการขนส่งดี แม้จะมีปัญหาค่าแรงสูง แต่การผลิตถุงมือยางส่วนใหญ่ใช้เครื่องจักร อย่างไรก็ตาม อยากให้ภาครัฐบาลสนับสนุนด้านการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อยากมาก

ทั้งนี้ ราคายางในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ต่อเนื่องตั้งแต่เดือน เม.ย. เป็นต้นมา เฉลี่ยประมาณ 40-45 บาท ต่อกิโลกรัม(กก.) แนวโน้มคาดว่าจะปรับสูงขึ้นแตะ 50 บาทต่อกก. จนถึงสิ้นปีนี้ แต่จะไม่สูงถึง70-80 บาทต่อกก. เหมือนในอดีต เพราะอุตสาหกรรมหลักที่เป็นตัวขับเคลื่อน คือยางล้อ ยังซบเซา

สำหรับการจัดตั้งโรงงานถุงมือยางของการยางแห่งประเทศไทย (กยท. )ในจ.นครศรีธรรมราช โดยการร่วมทุนกับเอกชน สหกรณ์ และวิสาหกิจชุมชน นั้น มีความเป็นไปได้ยาก องค์กรเหล่านี้ไม่มีเงินทุน อีกทั้งการตั้งโรงงานต้องอาศัยความคล่องตัว คิดแล้วดำเนินการทันที เนื่องจากมีการแข่งขันสูง ซึ่งหลังจากปี 2564 มีความเสี่ยงสูงมากที่ถุงมือยางจะล้นตลาด