แรงงานต่างชาตินับแสนเข้าไทย สธ.เข้มเฝ้าระวังโควิด-19เชิงรุก

แรงงานต่างชาตินับแสนเข้าไทย สธ.เข้มเฝ้าระวังโควิด-19เชิงรุก

สธ. เฝ้าระวังเชิงรุกแรงงานต่างชาติ เน้น 3 พื้นที่ด่านทางเข้า เตรียมนำรถพระราชทานฯตรวจหาเชื้อโรคโควิด รองรับผ่อนปรนแรงงานนับแสนเข้ามาทำงาน

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโควิด-19 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า จากการนำรถพระราชทานตรวจเชื้อโรคโควิด-19ชีวนิรภัย ออกตรวจในกรณีผู้ร่วมชมคอนเสิร์ต เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ผลการตรวจเชื้อทั้งหมด 2,582 ราย แบ่งเป็นวันที่ 4 ส.ค. เก็บตัวอย่าง 617 ราย ทั้งหมดให้ผลเป็นลบไม่พบเชื้อ และวันที่ 5 ส.ค. ตรวจเชื้อทั้งหมด 1,965 ราย ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ ทั้งนี้ กิจกรรมที่มีการผ่อนคลาย ถือเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ทางราชการจึงกำหนดมาตรการหลักและมาตรการเสริม ให้ผู้ที่จัดคอนเสิร์ต หรือจัดกิจกรรมใดๆก็ตามต้องปฏิบัติ ทั้งผู้จัด และผู้ร่วมเพื่อป้องกันโรค อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ทางหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่จะมีการเฝ้าระวัง สอบสวนโรค แต่หากเกินกำลัง ก็จะมีรถพระราชทานนี้ก็พร้อมเข้าไปยังพื้นที่ เพื่อตรวจเชื้อ

“ผลนี้เป็นการแสดงย้ำให้ประชาชนเชื่อมั่นในมาตรการป้องกัน ควบคุมโรคของประเทศไทยที่ปฏิบัติตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ และมีการตรวจจับโรคที่เข้มข้นนำไปสู่การควบคุมการระบาดได้ทันท่วงที ทำให้ประชาชนยังคงดำเนินชีวิตได้ปกติที่เน้นชีวิตวิถีใหม่”นพ.สุวรรณชัยกล่าว

นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีแผนนำรถพระราชทานฯไปใช้ประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังเชิงรุก โดยมีกลุ่มเป้าหมายแรกเป็นพื้นที่ที่มีการผ่านเข้าออกของแรงงานต่างชาติ เช่น พื้นที่อ.แม่สอด จ.ตาก จ.สระแก้ว และจ.สงขลา และมีการเตรียมการระยะยาวในพื้นที่คใมรับปิดชอบของเขตสุขภาพที่ 1-12 ทั่วประเทศและกทม. ในการสร้างทีมปฏิบัติการประจำและซ้อมแผนเผชิญเหตุในกรณีที่อาจจะเกิดการระบาดระลอกที่ 2 ในพื้นที่

สำหรับผลการตรวจเชื้อครั้งที่ 1 ของทหารสหรัฐอเมริกาที่เข้าพักในสถานที่กักกันทางเลือก(Alternative State Quarantine)ทั้ง 110 คน ไม่พบเชื้อ โดยจะต้องเข้ารับการกักกันต่อไปจนครบระยะเวลา 14 วันและจะมีการตรวจเชื้ออีก 2 ครั้ง ระหว่างการกักกันไม่ได้อนุญาตให้ออกไปไหน และมีระบบควบคุมทั้งของสถานที่และการกำกับของกระทรวงกลาโหม ขอให้ประชาขามั่นใจในสิ่งที่ราชการดำเนินการในเรื่องของการป้องกันไม่ให้เชื้อภายนอกเข้ามาในประเทศและเกิดการระบาด

พญ.ศิริลักษณ์ ไทยเจริญ ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า กรณีผลการตรวจเชื้อที่จ.นครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการ 4-5 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งหมด 2,582 ราย พบว่าเป็นผู้ร่วมชมคอนเสิร์ตจำนวน 1,930 ราย คิดเป็น 75% ของทั้งหมด โดยส่วนใหญ่ผู้ที่มาคัดกรองเป็นกลุ่มวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มารับการคัดกรอง ไม่มีอาการ 88% มีเพียง 12% มีอาการทางระบบทางเดินหายใจ โดยสรุปคือจากการตรวจเชื้อไม่พบโควิด ดังนั้น อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช จึงขอให้มั่นใจว่าปลอดเชื้อโรคโควิด-19

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) มีการผ่อนปรนระยะ 6 ให้ 4 กลุ่มต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยได้ หนึ่งในนั้นเป็น “แรงงานต่างด้าว” 3 สัญชาติ เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา ซึ่งขณะนี้กระทรวงแรงงานมีข้อมูลแรงงานที่จะเดินทางเข้าราว 1.1 แสนคน แบ่งเป็น ผู้ที่มีใบอนุญาตทำงานและวีซ่าอยู่แล้ว ราว 6.9 หมื่นคน และผู้ที่ยังไม่มีใบอนุญาตทำงานและวีซ่า ราว 4.2 หมื่นคน โดยมาตรการดูแลทุกรายจะต้องเข้ารับการกักกันตัวเป็นเวลา 14 วัน ในสถานที่กักกันโดยสถานประกอบการหรือองค์กรหรือบริษัทเป็นผู้ดำเนินการ(Organizational Quarantine:OQ) ซึ่งผู้ประกอบการนำแรงงานเข้ามาเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย และจะต้องจัดเตรียมสถานที่ในพื้นที่ด่านเข้าประเทศ ห้ามเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ก่อนครบ14วัน