LPN - ถือ

LPN - ถือ

พื้นฐานยังอ่อนแอ แต่อาจมีประเด็นให้เล่น

LPN รายงานกำไร 2Q20 ที่ราว Bt153mn ลดลง 29% qoq และ 13% yoy ผลประกอบการสูงกว่าประมาณการของเราและตลาด 39% และ 36% เราคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ LPN ที่ราคาเป้าหมาย Bt4.1 เนื่องจากราคาหุ้นปัจจบันไม่มี upside บนราคาเป้าหมายของเรา อีกทั้งพื้นฐานบริษัทและแนวโน้มผลประกอบการในระยะกลาง-ยาวยังอ่อนแอ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นอาจปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้นได้หากบริษัทบรรลุการเจรจาการขายตึกสำนักงานที่วิภาวิดี

 

ผลประกอบการสูงกว่าคาดแต่ยังถือว่าค่อนข้างอ่อนแอ

ปัจจัยหนุนหลักที่ทำให้ผลประกอบการดีกว่าคาดนั้นมาจาก ปัจจัยผสมผสานทั้งรายได้การโอนที่ดีกว่าคาดและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง โดย LPN รายงานบริษัทมีรายได้จากการโอนที่ราว Bt1.22bn ลดลง 18% qoq และ 10% yoy ใน 2Q20 สูงกว่าคาดการณ์ของเราที่ Bt1.15bn เล็กน้อย ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นนั้นยังอ่อนแอที่ 30.7% ใน 2Q20 ลดลง 100bps qoq และราว 200bps yoy จากโปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษที่เสนอให้กับลูกค้าระหว่างไตรมาสที่ผ่านมา แม้ว่า LPN ประกาศว่าจะไม่มีการปรับลดอัตราเงินเดือนหรือการปลดพนักงาน การควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานนั้นถือว่าควบคุมได้ดีที่ราว Bt270mn ลดลง 15% qoq และ 25% yoy หลังจาก LPN ปรับใช้นโยบายประหยัดต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆในช่วงนี้ซึ่งว่าทำได้ดีกว่าคาดการณ์ของเราที่ Bt298mn ประสิทธิภาพการจัดการดูแลค่าใช้จ่ายที่ทำได้ดีสะท้อนได้จากสัดส่วน ต้นทุนการขายและบริหารต่อรายได้  (SG&A to sales) ที่ 17.6% เทียบกับ 21.6% ในปีที่แล้วแม้ว่ารายได้รวมจะปรับตัวลดลงอย่างมาก

 

กำไรไตรมาส 2 น่าจะต่ำสุดแล้วและน่าจะดีขึ้นในครึ่งหลังจาก 3 โครงการใหม่พร้อมโอน

เรายังคงมุมมองว่ากำไรใน 2Q20 จะเป็นจุดต่ำสุดของปีและแนวโน้มของกำไรนั้นจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นจากคอนโดมิเนียมพร้อมโอนใหม่ “Lumpini Ville Sukhumvit 101/1 - Punnawithi” (มูลค่า Bt700mn, ยอดจอง 34%) ใน 3Q20 และอีกสองโครงการคอนโดมิเนียมจะพร้อมโอนใน 4Q20 ได้แก่ “Lumpini Park Boromarajonani-Sirindhorn” (มูลค่า Bt1.5bn, ยอดจอง 35%) และ “Lumpini Ville Pattanakarn - Srinakarin” (มูลค่า Bt1.5bn, ยอดจอง 63%)

 

แนะนำแค่ “ถือ” พื้นฐานอ่อนแอและไม่มี upside แต่การเจรจาขายตึกอาจประเด็นบวกในระยะสั้น

เราคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ LPN ที่ราคาเป้าหมาย Bt4.1 เทียบเท่า PER 8x จากการที่กลุ่มลูกค้าหลักของ LPN ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงน้อยนั้นยังคงได้รับผลกระทบจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้าและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูงถึง 40% ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามราคาหุ้นในระยะสั้นอาจปรับตัวขึนได้จากผลประกอบการที่ดีกว่าคาดใน 2Q20, แนวโน้มกำไรที่จะปรับตัวดีขึ้นจากคอนโดมิเนียมใหม่พร้อมโอนในช่วงครึ่งหลังของปีและความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายอาคารสำนักงาน Lumpini Tower Vibhavadi – Chatuchak ซึ่งการเจรจาอาจจะสามารถบรรลุได้ได้ในช่วง 2H20