ยุโรปคุมเข้มอีกรอบ ป้องโควิดระลอก 2

ยุโรปคุมเข้มอีกรอบ ป้องโควิดระลอก 2

ยุโรปกระชับมาตรการควบคุมโควิด-19 ให้เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากการระบาดระลอก 2 ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ โพสต์คลิปวิดีโออ้างข้อมูลผิดว่า เด็กๆ แทบจะมีภูมิคุ้มกันโควิด ถูกเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ถอดคลิป

การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ยังไม่อ่อนแรงทั่วโลก ทำให้หลายเมืองและหลายประเทศในยุโรป กำหนดมาตรการควบคุมโควิดอีกรอบอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น เช่น กรีซประกาศ “สัปดาห์แห่งความตื่นตัว” ที่อื่นๆ กำหนดให้ต้องสวมหน้ากากและต้องกักตัวกันใหม่

เมื่อวันพุธ (5 ส.ค.) สหรัฐมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1,262 คน ติดเชื้อรายใหม่ 53,158 คน จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 157,930 คน ติดเชื้อกว่า 4.8 ล้านคน เสียหายหนักที่สุดในโลก

ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วโลก สำนักข่าวเอเอฟพีรวบรวมไว้เมื่อเวลา 07.00 น. วันพฤหัสบดี (6 ส.ค.) ตามเวลาประเทศไทย รวม 703,640 คน

ยุโรปเป็นภูมิภาคที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 211,764 คน ขณะที่ในละตินอเมริกาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เสียชีวิต 208,329 คน

ผู้เสียชีวิตในบราซิลจ่อแตะ 100,000 คนเต็มที โดมิงโกส อัลเวส นักสถิติการแพทย์ ผู้ประสานงานห้องทดลองข่าวกรองด้านสุขภาพ วิทยาลัยแพทย์ไรบีราโอ เปรโต มหาวิทยาลัยเซาเปาโล วิจารณ์รัฐบาลประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร ที่เอาชีวิตประชาชนชาวบราซิลมาบูชายัญเพื่อให้เศรษฐกิจได้ไปต่อ

เขาคาดด้วยว่า ถ้าแนวโน้มการติดเชื้อในประเทศยังดำเนินต่อไปเช่นนี้ ผู้เสียชีวิตในบราซิลจะทะลุ 200,000 คน ในวันที่ 15 หรือ 16 ต.ค.

“แต่ผมเกรงว่า น่าจะเร็วกว่านั้น เพราะการติดเชื้อและเสียชีวิตน่าจะเร่งตัวขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ถ้าสถานการณ์ยังเป็นไปเช่นนี้ เราจะมีคนเสียชีวิตมากในแต่ละวันจนกว่าจะมีวัคซีน” ผู้เชี่ยวชาญสรุป

กรีซประกาศใช้มาตรการควบคุมอีกครั้ง เสตอเลียส เพตซาส โฆษกรัฐบาลเผยกับสถานีโทรทัศน์เมกาทีวี ขอให้ประชาชนตื่นตัว รัฐบาลจะประกาศมาตรการเพิ่มเติมเป็นรายวัน โดยเฉพาะที่น่ากังวลมากคือการเดินทาง การรวมตัวกัน และการขนส่งสาธารณะ

เมืองอาเบอร์ดีน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสกอตแลนด์ ออกข้อบังคับอีกรอบเช่นกัน รวมถึงการปิดสถานที่พักผ่อนหย่อนใจทั้งในร่มและกลางแจ้งทุกแห่ง เนื่องจากนายกรัฐมนตรีนิโคลา สเตอร์เจียน ระบุว่าอาจกลายเป็นแหล่งระบาดใหญ่

เมืองตูลูส ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสบังคับประชาชนส่วนหน้ากาก คาดว่าเมืองอื่นๆ น่าจะเอาอย่างด้วย

ส่วนเยอรมนีรวม จ.แอนต์เวิร์ปของเบลเยียม เข้าไว้ในบัญชีพื้นที่ที่นักเดินทางเข้าเยอรมนีต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน เว้นแต่ทดสอบโควิดได้ผลเป็นลบ

ในเบลเยียม โรงงานเวสต์ลีส์ โรงงานแปรรูปเนื้อใหญ่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ให้พนักงาน 225 คนกักตัวที่บ้าน หลังพบการระบาดในโรงงาน

สวิตเซอร์แลนด์เพิ่มแผ่นดินใหญ่สเปน เข้าในบัญชี 46 ประเทศที่เดินทางเข้ามาแล้วต้องกักตัว บัญชีนี้รวมสิงคโปร์และโรมาเนียด้วย

ในเนเธอร์แลนด์ บังคับสวมหน้ากากในรอตเตอร์ดัมและย่านที่คนหนาแน่นบางแห่งในกรุงอัมสเตอร์ดัม รวมถึงย่านโคมแดงอันโด่งดัง

ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดทั่วโลกเกิน 700,000 คน สองโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ทั่วโลกจึงต้องดำเนินการกับประธานาธิบดีทรัมป์ฐานเผยแพร่ข้อมูลที่เฟซบุ๊คกับทวิตเตอร์เรียกว่า “ข้อมูลบิดเบือน” เกี่ยวกับโควิด

เมื่อกลางดึกวันพุธ (5 ส.ค.) ตามเวลาสหรัฐ เกิดการเคลื่อนไหวสุดพิเศษ เฟซบุ๊คถอดคลิปวิดีโอเรื่องไวรัสออกจากบัญชีทรัมป์ คลิปนี้ทรัมป์ทำขึ้นสำหรับการเปิดเรียนอีกครั้งในเดือน ก.ย.

โฆษกเฟซบุ๊คเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เฟซบุ๊คจัดการโพสต์ของประธานาธิบดีที่ละเมิดกฎระเบียบด้านเนื้อหา ด้วยการอ้างว่า “คนกลุ่มหนึ่งมีภูมิคุ้มกันโควิด-19 ซึ่งผิดนโยบายบริษัทว่าด้วยอันตรายของการให้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับโควิด”

ในเวลาเดียวกันทวิตเตอร์เผยว่า ได้บล็อกบัญชีหาเสียงทางการของทรัมป์ที่เผยแพร่คลิปวีดิโอดังกล่าวด้วย ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารบิดเบือนขัดกับหลักการของทวิตเตอร์ 

ไม่นานหลังจากนั้นบัญชี @TeamTrump กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง แสดงว่าวีดิโอดังกล่าวถูกลบแล้ว

ส่วนความคืบหน้าเรื่องวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดเผยว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลสหรัฐเพื่อผลิตและส่งมอบวัคซีนทดลองต้านไวรัส SARS-CoV-2 ของแจนส์เซน ฟาร์มาซูติคอล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โดยวัคซีนทดลองต้านไวรัสที่ชื่อ Ad26.COV2.Sจะมีการผลิตในจำนวน 100 ล้านโดส เพื่อนำไปใช้ในสหรัฐหลังจากที่ได้รับการอนุมัติหรือได้อำนาจตามมาตรการฉุกเฉินจากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ

ในจีน วัคซีนของไบโอเอ็นเทค บริษัทยาเยอรมนีที่ร่วมมือกับบริษัทโฟซันฟาร์มาของจีนเริ่มทดลองในมนุษย์แล้ว