‘นอนแบงก์’ เปิดศึกดอกเบี้ย ‘เงินติดล้อ’ หั่นราคาชิงลูกค้า

‘นอนแบงก์’ เปิดศึกดอกเบี้ย ‘เงินติดล้อ’ หั่นราคาชิงลูกค้า

“สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ” แข่งเดือด เริ่มเปิดฉาก “สงครามราคา” หลัง “เงินติดล้อ” อัดแคมเปญดอกเบี้ยต่ำ 0.88% ต่อเดือน โดยให้กับรถทุกชนิด ทุกคันไม่เว้นรถเก่า ขณะ ค่ายอื่นๆ ประกาศพร้อมหั่นราคา โดย “เอ็มทีซี” ย้ำขอรอดูสถานการณ์ก่อน

ลั่นหากจำเป็นก็พร้อมเข้าแข่งขัน ด้าน “สวัสดิ์” ยันพร้อมสู้ศึก แต่ขอดูสถานการณ์เศรษฐกิจ ความสามารถชำระหนี้ของลูกหนี้ ขณะ “สมหวังฯ” เชื่อทุกบริษัทพร้อมแข่งลดดอกเบี้ยชิงลูกค้าเก่าประวัติดี

การแข่งขันในตลาด “นอนแบงก์” หรือ บริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งให้บริการสินเชื่อครัวเรือนทั้งสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สินเชื่อบัตรเครดิต กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหลังจาก ธนาคารออมสิน ประกาศ ตัวว่าจะเข้ามาทำธุรกิจดังกล่าว เพื่อกดดอกเบี้ยในตลาดลงอย่างน้อย 8-10% 

ขณะที่ล่าสุด บริษัท เงินติดล้อ จำกัด ได้ออกแคมเปญพิเศษดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถทุกชนิด ทุกคัน เหลือ 0.88% ต่อเดือน แบบลดต้นลดดอก หรือ คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่อปีที่ 18.95% ในช่วงระหว่าง 1 ส.ค.ถึง30 ก.ย.2563 ยิ่งทำให้สถานการณ์การแข่งขันในตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากในตลาดส่วนใหญ่ที่ให้อัตราดอกเบี้ยระดับนี้ มักเป็นเพียงดอกเบี้ย “เริ่มต้น” ที่ให้กับรถแค่บางประเภทหรือบางคันเท่านั้น ซึ่งคนในแวดวงธุรกิจเริ่มกังวลว่า การแข่งขันที่ร้อนแรงขึ้นกำลังนำไปสู่ “สงครามราคา” โดยที่ผู้บริโภคได้ประโยชน์ แต่ไม่เป็นผลดีต่อตัวธุรกิจนัก

นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฏ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด กล่าวว่า สงครามราคาของตลาดนอนแบงก์จะเกิดขึ้นหรือไม่ ยังต้องรอประเมินสถานการณ์ของผู้เล่นรายใหม่ก่อน ส่วนอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถในตลาดตอนนี้ ถือว่ามีความหลากหลายและต่ำกว่าเพดานใหม่ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กำหนดไว้ที่ 24% 

“ดอกเบี้ยของเราสูงสุดเฉลี่ยที่22% และต่ำสุดเริ่มต้นที่ 10% กว่าไปจนถึง 18% ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขและคุณสมบัติของลูกค้า ยังสามารถดูแลลูกค้าและแข่งขันในตลาดได้”

ส่วนแคมเปญดอกเบี้ยพิเศษช่วง 2 เดือนที่เพิ่งออกมาล่าสุด ถือว่า เป็นอัตราดอกเบี้ยเทียบเท่าในตลาด และไม่ได้เป็นแคมเปญแข่งขันเพื่อหวังการเติบโต เพราะบริษัทยังสามารถทำได้ตามแผนงานที่วางเอาไว้อย่างต่อเนื่อง แต่จุดประสงค์ของแคมเปญนี้ เพื่อเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้าบางกลุ่มที่ก่อนหน้านี้มาหาเราและต้องการความช่วยเหลือเพื่อนำเงินไปปิดยอดสินเชื่อเดิมที่ใช้บริการอยู่เป็นหลัก

ดังนั้นจึงมองว่า ช่วงนี้เป็นจังหวะดีที่บริษัทต้องเข้ามาช่วยเหลือแบ่งเบาภาระให้กับลูกค้าในช่วงหลังโควิด-19 ที่ก็มีคนบางกลุ่มยังได้รับกระทบอยู่ ปัจจุบันเริ่มมีลูกค้ายื่นสมัครขอสินเชื่อแคมเปญดอกเบี้ยพิเศษนี้ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนระยะยาวจะขยายแคมเปญนี้ออกไปหรือไม่ ต้องขอรอดูสถานการณ์ก่อน

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด ( มหาชน) หรือ MTC กล่าวว่า สงครามการแข่งขันเรื่องราคาตอนนี้ไม่น่าจะเกิด แต่ยังต้องติดตามคู่แข่งรายใหม่ กรณีออมสินที่จะลงมาทำดอกเบี้ยให้ต่ำลง 8-10% ซึ่งจะเริ่มปีหน้าก็ต้องรอประเมินก่อนว่าทำได้จริงหรือไม่และทำได้มากน้อยแค่ไหน

ขณะที่หลักเกณฑ์ใหม่ของ ธปท. เรื่องเพดานดอกเบี้ยที่ 24% เป็นการถาวรและอัตราค่าติดตามทวงหนี้ไม่เกิน100บาท ก็ไม่ได้เป็นข้อจำกัดหรือกระทบการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด เพราะปกติเราคิดต่ำกว่าอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามหากประเมินสถานการณ์ภาพรวมในปีหน้าแล้วมีความจำเป็น บริษัทก็พร้อมแข่งขันเช่นกัน ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังไม่จำเป็นต้องเร่งรัดออกแคมเปญดอกเบี้ยพิเศษมาแข่งขัน เพราะเมื่อเทียบกันแล้วที่ดอกเบี้ยระดับ 18-20% ตรงนี้บริษัทได้เข้าไปดูแลและช่วยเหลือแบ่งเบาภาระลูกค้าเป้าหมายได้ตามแผนอยู่

“เชื่อมั่นว่าเรายังสามารถเติบโตได้ตามนโยบายที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปีโดยในปีนี้ตั้งเป้าหมายเติบโต 20-25% ทั้งกำไร ยอดปล่อยสินเชื่อและสินเชื่อคงค้าง ซึ่งไตรมาสแรกทำได้และไตรมาสสองคาดว่าทำได้ตามแผน ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังยังมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้เงินดีกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา”

นางสาวธิดา แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SWAD กล่าวว่า  การแข่งขันในตลาดนอนแบงก์ถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการแข่งขันยิ่งมากผู้บริโภคยิ่งได้ประโยชน์ โดยบริษัทเองก็พร้อมเข้าแข่งขัน แต่อย่างไรก็ตามคงต้องรอประเมินสถานการณ์ต่างๆ ให้ชัดเจนก่อน รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจและความสามารถชำระหนี้ของลูกหนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นและความต้องการใช้เงินยังมี บริษัทก็พร้อมจัดแคมเปญดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อลดภาระลูกค้าและสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน

"แคมเปญดอกเบี้ยพิเศษในตลาดตอนนี้ใกล้เคียงกัน ไม่ได้แตกต่างกับของเรา ช่วงนี้เราเน้นการประคับประคองลูกค้าเป็นหลัก โดยดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่เรามียังดูแลได้และเป็นไปตามทิศทางนโยบายที่วางไว้ แต่หากประเมินแล้วปัจจัยแวดล้อมมีความพร้อมขยายตลาดสร้างการเติบโตมากกว่านี้เราก็สามารถจัดแคมเปญดอกเบี้ยพิเศษได้เช่นกัน”

แหล่งข่าวจากกลุ่มธนาคารทิสโก้ที่ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถภายใต้แบรนด์ “สมหวังเงินสั่งได้” กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์หลังเพดานดอกเบี้ยปรับลดลงตั้งแต่วันที่1ส.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งรอดูการเข้ามาทำธุรกิจนี้ของธนาคารออมสินว่าจะเป็นอย่างไร หากสามารถทำให้ดอกเบี้ยปรับลดได้จริง เชื่อว่าทุกบริษัทในตลาดนี้คงต้องปรับตัว โดยเฉพาะการแข่งขันดอกเบี้ยเพื่อรักษาลูกค้าเก่าประวัติดีเอาไว้ 

สำหรับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทเตรียมออกแคมเปญดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระต้นทุนลูกค้าเก่าประวัติดี เน้นกลุ่มธุรกิจที่เริ่มกลับมาทำตลาดหลังโควิด-19และต้องการเงินทุนหมุนเวียนต่อยอดธุรกิจ

สถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรง ประกอบกับ ธปท. กำหนดให้เริ่มใช้เพดานดอกเบี้ยใหม่ตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับลดลงถ้วนหน้า โดยหุ้นในกลุ่มจำนำทะเบียนรถ เช่น MTC ลดลง 3% นับตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.2563 SAWAD ลดลง 4%