สมาคมไก่เผยส่งออกครึ่งปีเพิ่ม 2 %

สมาคมไก่เผยส่งออกครึ่งปีเพิ่ม 2 %

สมาคมไก่ฯเผยยอดส่งออกครึ่งปี 4.7 แสนตัน เพิ่ม 2 % เหตุโควิดระบาด ยอดอียูวูบ 10 % จีน สิงคโปร์เพิ่ม คาดทั้งปียังคงเป้า 9.8 แสนตัน หวังวัคซีนผุด ฟื้นตลาดอียู

นายคึกฤทธิ์ อารีปกรณ์ ผู้จัดการสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย เปิดเผยว่า การส่งออกไก่ในครึ่งปีแรก 63 อยู่ที่ 4.7 แสนตัน เพิ่มขึ้น 2 % มูลค่า 5.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้เพราะการระบาดของโรคโควิด 19 ส่งผลให้ สหภาพยุโรป หรืออียู ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดหลักมีการนำเข้าน้อยลง โดยเฉพาะอียู ที่ปัจจุบันสถานการณ์โควิดยังไม่คลี่คลาย ทำให้การสั่งซื้อไก่จากไทยลดลง 10 % ทั้งปีคาดว่าไทยจะส่งออกในตลาดนี้ได้ เฉพาะปริมาณในโควตา คือ 2.8 แสนตันเท่านั้นจากเดิมที่ส่งออกได้ กว่า 3.3 แสนตัน ด้านตลาดญี่ปุ่น การส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 1-2 % เท่านั้น เนื่องจากโควิดทำให้การท่องเที่ยวลดลงเหลือ 0 %และ การจัดโอลิมปิกถูกเลื่อนออกไป ทำให้การสั่งซื้อไก่ลดลง เพื่อให้เพียงพอกับการบริโภคของประชากรในประเทศเท่านั้น รวมทั้งยังต่อรองให้ไทยลดราคาลงด้วย

อย่างไรก็ตามไทยได้ตลาดจีน เพิ่มขึ้น ประมาณ 1 แสนตัน และสิงคโปร์เพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 2 หมื่นตัน สามารถชดเชยกันได้โดยจีนแม้ว่าความต้องการบริโภคจะเพิ่มขึ้นมาก แต่เนื่องจากคำสั่งซื้อเฉพาะปีก และตีนไก่เท่านั้น ทำให้ไทยไม่สามารถขยายกำลังการผลิตได้ ส่วนหนึ่งเพราจะทำให้เนื้อส่วนอื่นล้นตลาด ปัจจุบันเนื้อหน้าอกไม่สามารถส่งไปตลาดอียูได้ ต้องนำออกมาจำหน่ายตลาดในประเทศ ทำให้ราคาปรับตัวลดลง

159671289912

นายคึกฤทธิ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ครึ่งปีหลัง คาดว่าจะยังไม่ดีขึ้น ซึ่งปัจจัยลบยังเป็นการระบาดของโควิดในอียูยังไม่คลี่คลาย ร้านอาหารต่างๆยังไม่เปิดให้บริการ ประกอบกับอียูไม่มีบริการส่งของถึงบ้านอย่างแพร่หลายทำให้การบริโภคภายในยังทรงตัว ซึ่งสมาคมฯยังคงเป้าการส่งออกไก่เนื้อทั้งปี 63 ที่ 9.8 แสนตัน โดยต้องดูสถานการณ์โควิดในอียูเป็นหลัก

“เป้าที่กำหนดน่าจะเฉียดๆ ไม่รู้จะถึงหรือไม่ ปัจจัยมาจากโควิดเท่านั้น ถ้าอียูคุมได้ สถานการณ์จะดีขึ้น ตอนนี้เราพยายามเปิดตลาดเพื่อนบ้านให้มากขึ้น เพราะหมูแพง อาจจะหันมากินไก่กัน ส่วนตลาดในประเทศ อิ่มตัวแล้ว เพิ่มมากกว่านี้ไม่ได้ ความหวังว่าการส่งออกจะแรงขึ้นจากการการประกาศใช้วัคซีนป้องกันโควิดเท่านั้น “

 

อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้เร่งปรับแผนการผลิตใหม่ทั้งหมด โดยปรับลดกำลังการผลิตลงให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ส่วนต้นทุนการผลิตยังเพิ่มขึ้นไม่มาก จากราคาวัตถุดิบข้าวโพด ยังอยู่ที่ 8.50 บาทต่อกก. ถั่วเหลืองราคายังทรงตัว