พาณิชย์เปิดเวทีออนไลน์สินค้าไลฟ์สไตล์ เพิ่มมูลค่าส่งออกไทย  11-14 ส.ค.นี้

พาณิชย์เปิดเวทีออนไลน์สินค้าไลฟ์สไตล์ เพิ่มมูลค่าส่งออกไทย  11-14 ส.ค.นี้

พาณิชย์ เตรียมจัดงาน  STYLE Bangkok Telematching in LOVE 11-14ส.ค.นี้  ดันผู้ส่งออกไทยเจรจาการค้ากับผู้ซื้อ-ผู้นำเข้าทั่วโลก ผ่านกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์   คาด 1 ปีสร้างมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมเตรียมจัดงาน STYLE Bangkok   Telematching in  LOVE ระหว่างวันที่ 11-14 ส.ค. ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถนนรัชดาภิเษก โดยจัดในรูปแบบออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อ-ผู้นำเข้าจากทั่วโลกได้เจรจาการค้ากับผู้ส่งออกไทยในช่วงที่ยังต้องรักษาระยะห่าง หรือ Social Distancing กันอยู่ เพื่อให้ผู้ส่งออกไทยไม่เสียโอกาสทางการค้า และยังถือเป็นการกระตุ้นให้ผู้ส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นของไทยมีความพร้อมในการทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการจัดงานในรูปแบบใหม่เพื่อให้สอดรับกับมาตรการและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 ทั้งต่อการผลิตและส่งออก รวมถึงความกังวลของนักธุรกิจทั่วโลกในด้านความปลอดภัยและความยุ่งยากในการเดินทางระหว่างประเทศ

นายสมเด็จ กล่าวว่า  งาน STYLE Bangkok   Telematching in  LOVE  ถือเป็นกิจกรรมออนไลน์แบบไฮบริดครั้งแรกของโลก เป็นการผสมผสานระหว่าง 2 กิจกรรมเข้าด้วยกัน ได้แก่ กิจกรรมการจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์แบบ One-on-One Online Business Matching พร้อมส่วนจัดแสดงสินค้าตัวอย่างเพื่อนำเสนอแก่ผู้ซื้อแบบ Live Streaming ควบคู่กับการนำเสนอสินค้า โดยผู้ซื้อ ผู้นำเข้า สามารถชมงานแสดงสินค้า STYLE Bangkok เสมือนจริง หรือ Virtual Exhibition ผ่านเว็บไซต์ www.stayinstylebangkok.com และเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดเตรียมอุปกรณ์ ระบบ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดจนล่ามแปลภาษาไว้ให้บริการ หรือสามารถเจรจาการค้าออนไลน์ ณ บริษัทของผู้ประกอบการตามความสะดวก      

   159670287081         

“ขณะนี้มีผู้ซื้อและผู้นำเข้าลงทะเบียนเข้าสู่ระบบจำนวน 118 ราย จาก 31 ประเทศ โดย 5 ประเทศที่ลงทะเบียนสูงสุด ได้แก่ เมียนมา สหรัฐอเมริกา อินเดีย จีนและญี่ปุ่น มีการจับคู่เจรจาซึ่งได้รับการยืนยันตอบรับแล้วจำนวน 103 คู่ จาก 14 ประเทศ และรอการตอบรับนัดหมายอีก 134 คู่ ในขณะที่ผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นของไทย ได้แสดงความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 187 บริษัท คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าการส่งออกทันทีและภายใน 1 ปี ได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท”นายสมเด็จ กล่าว

นายสมเด็จ กล่าวว่า  การจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์ในครั้งนี้ แบ่งกลุ่มผู้ซื้อสินค้าออกเป็น 4 กลุ่มตามความต้องการของผู้ซื้อทั่วโลก ได้แก่ Host & Home เจาะกลุ่มผู้ซื้อกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ร้านอาหาร และโปรเจกต์ต่างๆ Gifts for All เจาะกลุ่มผู้ซื้อกลุ่มห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกประเภทคอนเซ็ปท์ สโตร์ ซีเล็คเต็ดช็อป Fashion in Love เจาะกลุ่มผู้ซื้อสินค้าสิ่งทอ แฟชั่น เครื่องหนัง กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้ากีฬา ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ รวมถึงสินค้าที่ตอบโจทย์วิถีชีวิต New Normal และ The Niche เจาะกลุ่มผู้ซื้อตลาดเฉพาะที่มีกำลังซื้อสูง ได้แก่ สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet) สินค้าผู้สูงอายุ (60+) และสินค้าแม่และเด็ก (Mom & Kids)

      159670288457     

นอกจากกิจกรรมเจรจาการค้า ภายในงานยังจะมีกิจกรรมสัมมนาออนไลน์เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ส่งออกไทยในการรุกตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ ได้แก่ สัมมนาหัวข้อ “Opportunity for Thai Lifestyle Products  in Korea” ซึ่งได้ 2 วิทยากร ผู้เชี่ยวชาญตลาดเกาหลีใต้มาชี้ช่องโอกาสสินค้าไลฟ์สไตล์บุกแดนโสม ได้แก่ คุณวิลาสินี โนนศรีชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโซล และ Ms. Mijin Kim - Creative Director จาก Assemblage ในวันที่ 11 สิงหาคม เวลา 14.00 น. สัมมนาหัวข้อ “Lifestyle Product Design and Space Design for Japanese Market 2020” โดยวิทยากรชาวญี่ปุ่นจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ในวันที่ 13 dส.ค. 2563