ลุ้นทดสอบ 1,350 จุด

ลุ้นทดสอบ 1,350 จุด

ดัชนีวานนี้ปิดบวก 6.54 จุด คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ ประกอบกับตลาดหุ้นโซนยุโรปที่เปิดช่วงบ่ายบวกราว 1% 

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องยังช่วยหนุนกลุ่ม ENERG ภายในประเทศ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,337.35 จุด (+6.54 จุด) Volume 6.0 หมื่นลบ. ต่างชาติ -672.87 ลบ. TFEX Net -8,339 สัญญา ตราสารหนี้ -228 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 373.05 จุด +1.39% ได้แรงหนุนจากข้อมูลดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่ง รวมทั้งความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 49 เซนต์ +1.2% ปิดที่ 42.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ ประกอบกับสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

+ "มาร์กิต"เผยดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐมีเสถียรภาพในเดือนก.ค. หลังจากหดตัว 5 เดือน

+ ISM เผยดัชนีภาคบริการสหรัฐสูงสุดรอบกว่า 1 ปีในเดือนก.ค.

+สหรัฐเผยขาดดุลการค้าลดลง 7.5% สู่ 5.07 หมื่นล้านดอลลาร์ในมิ.ย.

+ดัชนี PMI ภาคบริการยูโรโซนพุ่งสูงสุดรอบ 2 ปี ขยายตัวครั้งแรกรอบ 5 เดือน

-ปธ.เฟดมินเนอาโพลิสแนะ"ทรัมป์"ใช้ยาแรงล็อกดาวน์สหรัฐ 4-6 สัปดาห์ หากหวังฟื้นเศรษฐกิจ

+ บอร์ด กนง.มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ตามตลาดคาด มองเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์

-กกร.ปรับคาดการณ์ GDP ปี 63 หดตัวเพิ่มขึ้นเป็น -9 ถึง -7% จากเดิม -8% ถึง -5%

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดเพิ่มขึ้น 5.88 จุด +0.17%

-ดัชนีนิกเกอิปิดที่ 22,514.85 จุด ลดลง 58.81 จุด -0.26% เช้าเปิด -43.14 จุด เยนแข็งกดดันหุ้นกลุ่มส่งออก

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 2.30 แสนลบ. ค่าเงินบาท 31.02 บาท/US

*จับตากระทรวงพาณิชย์ แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ ส่วนสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากข่าวความคืบหน้าการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ประกอบกับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่ใพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,320-1,340 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

IIG เข้าซื้อขายวันแรก

  • บริษัทดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านดิจิตอลและเทคโนโลยีโดยแบ่งเป็น 3 ธุรกิจหลักดังนี้ 1) ธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการออกแบบติดตั้งระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) และให้เช่าใช้ระบบซอฟต์แวร์จากทาง Salesforce 2) ธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการออกแบบติดตั้งระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) และเป็นตัวแทนจำหน่ายระบบซอฟต์แวร์จากทาง Oracle 3) ธุรกิจที่ปรึกษาด้านแบรนด์และจัดหาบุคลากร
  • คาดรายได้ปี 63 อยู่ที่ 517 ลบ. เติบโต 31% โดยเราคาดว่ารายได้จากการให้ใช้ใบอนุญาตโปรแกรมคอมพิวเตอร์จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลังธนาคารพาณิชย์และบริษัทประกันให้ความสำคัญกับระบบ CRM เพิ่มขึ้น (รายได้จากการให้ใช้ใบอนุญาตโปรแกรมฯ เป็นรายได้สม่ำเสมอตามจำนวนผู้ใช้) นอกจากนี้การแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นปัจจัยเร่งให้มีการทำงานจากบ้าน (Work from Home) ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องปรับตัวจากการทำงานเอกสารสู่เอกสารดิจิตอลเพิ่มขึ้นหนุนให้มีความต้องการติดตั้งโปรแกรมจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า(CRM) และโปรแกรมวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) เพิ่มขึ้นขณะที่คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงจาก 31.8% ในปี 62 สู่ 28.9% ในปี 63 เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นของรายได้จากการให้ใช้ใบอนุญาตโปรแกรมฯ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ทั้งนี้เราคาดการณ์กำไรปี 63 อยู่ที่ 58.7 ลบ. เติบโต23%YoY
  • ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าด้วยวิธี Prospective P/E Ratio โดยอ้างอิง P/E Ratio เฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปีของ VCOM APP AIT และ SAMTEL ซึ่งดำเนินธุรกิจใกล้เคียงกันและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ 13.6 เท่าและคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) สำหรับปี 63 ที่ 0.59 บาทต่อหุ้นได้ราคาเหมาะสมที่ 8.00 บาทต่อหุ้น

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Defensive Stock (ADVANC INTUCH DIF TTW BEM BTS CHG BCH)
  • หุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q20 ดี (WICE TASCO CPF PTT TOP SPRC PTTGC XO)
  • BOT สั่งลดเพดานดอกเบี้ยเป็นลบต่อ (KTC AEONTS MTC SAWAD)

หุ้นมีข่าว

(+) PTTGC (Bloomberg Consensus 47.97) เร่งปิดดีลเจรจาพันธมิตรใหม่ จำนวน 2-3 ราย เพื่อร่วมลงทุนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐฯ คาดได้ข้อสรุปกลางปีหน้า คาดงบไตรมาส 2/63 คาดพลิกมีกำไร 1.6 พันล้านบาท หลังขาดทุนสต๊อกลดลง (ที่มาข่าวหุ้น)

ความเห็น ราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูงจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยเราชอบ PTTGC จะเด่นที่สุดในกลุ่มโรงกลั่นต่อจากนี้เนื่องจากราคาปิโตรเคมีปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน ขณะที่กลุ่มโรงกลั่น TOP ESSO และ SPRC ถูกกระทบจากค่าการกลั่นจะทรงตัวในระดับต่ำ

(+) THCOM (Bloomberg Consensus 3.83 บาท)    ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2563 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 498 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 135 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้จากเงินชดเชย ประกอบกับการลดลงของค่าเสื่อมราคาของดาวเทียม จากการปลดระวางดาวเทียมไทยคม 5 รวมทั้งการด้อยค่าของดาวเทียมดวงอื่นๆ ในปี 2562 และกำไรสุทธิในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 151.9% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 198 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) APCO (Bloomberg Consensus - บาท)   โชว์ผลงานไตรมาส 2/63 ทำกำไรสุทธิ 19.24 ล้านบาท โต 65.69% ดันกำไรครึ่งปีแรกแตะ 36.43 ล้านบาท เพิ่ม ขึ้น 35.16% หลังยอดขายเพิ่ม ล่าสุดปรับกลยุทธ์กระตุ้นกำลังซื้อ ปั้นผลิตภัณฑ์ลดไขมันส่วนเกิน หวังหนุนยอดขายในประเทศช่วงครึ่งปีหลัง (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SMART (Bloomberg Consensus - บาท) มั่นใจรายได้ปีนี้ 470-480 ล้านบาท โตกว่า 5% เน้นทำการตลาดเชิงรุก แนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จัก ขยายฐานลูกค้า พร้อมลุยเพิ่มสัดส่วนกลุ่มอิฐมวลเบาประเภทตกแต่งเป็น 7% หลังคาดทั้งปีจะมีการเติบโต 40%  (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) GPI (Bloomberg Consensus - บาท)   มั่นใจแนวโน้มผลการดำเนินงานฟื้นตัว เตรียมรับรู้รายได้จากการจัดงานใหญ่ "บางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020" เมื่อวันที่ 13-26 กรกฎาคมที่ผ่านมา รวมถึงรอรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากเชื้อเพลิงขยะแปรรูป คาด COD ปลายปีนี้ หนุนงบครึ่งหลังฟื้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) IHL(Bloomberg Consensus - บาท) ส่งสัญญาณฟื้นตัว งานมอเตอร์โชว์ 2020 ดันออเดอร์ผลิตเบาะรถใหม่พุ่ง หนุนกำลังการผลิตกลับมาที่ 70% เชื่อภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด ด้านธุรกิจรองเท้าจ่อรับออเดอร์เพิ่ม 4 รายใหญ่ ส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์โปรตีนจากเศษหนัง อยู่ระหว่างรอรัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติ ตั้งเป้า 3-5 ปี รายได้รวมแตะระดับ 1,000 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BCPG (Bloomberg Consensus 20.72 บาท) จ่อเซ็น PPA โรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศลาว กำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ ภายในครึ่งปีหลังนี้ และเตรียมปิดดีล M&A เพิ่มอีก 1 โครงการ ฟากโบรกคาดโรงไฟฟ้าพลังงานลมในลาว หนุนมูลค่าหุ้นอีก 1.50-1.80 บาทต่อหุ้น จากเป้า 21.50 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AUCT (Bloomberg Consensus 6.75 บาทเตรียมเปิดตัวบริการใหม่ "เพื่อนประมูล" จัดบริการลูกค้าครบวงจร เพิ่มช่องทางโกยเงิน บิ๊กบอส "สุวิทย์ ยอดจรัส" คาดยอดรถไหลเข้าประมูลปีนี้เกินแสนคัน จากเดิม 7-8 หมื่นคัน มั่นใจรายได้โตตามเป้าหรือมากกว่า 10% พร้อมส่งซิกผลงานครึ่งปีแรกส่อแววโตเด่น (ที่มา ทันหุ้น)