KKP ชี้ตลาดรถใหม่ปี63วูบ35%

KKP ชี้ตลาดรถใหม่ปี63วูบ35%

KKP Reseach จับชีพจรตลาดรถหลังโควิดคาดยอดขายรถใหม่หดตัว35%ในปีนี้ ขณะที่ตลาดรถมือสองคึกคักกระแสท่ามกลางความท้าทาย

จากการวิคราะห์ของ KKP Reseachโดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ระบุว่า ตลาดรถยนต์ไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญ จากปัจัยลบทางเศรษฐกิจที่รุมเร้าและถูกซ้ำเติมด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงเดือนมีนาคม-

พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชากรและความต้องการซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูงอย่างรถยนต์จากความไม่มั่นใจต่อเศรษฐกิจและการจ้างงาน อีกทั้งยังมีแนวโน้มใหญ่ (Megatrends) ที่อาจกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน

ต่อเนื่องถึงธุรกิจัดจำหน่าย (Dealership) ในอนาคต ทั้งในด้านการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีการขับเคลื่อนไปใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งมีประสิทธิภาพดีขึ้นและมีแนวโน้มต้นทุนที่ถูกลง และวิถีชีวิตของคนเมืองที่เริ่มเปลี่ยน แปลงไป จากทางเลือกในการเดินทางที่เพิ่มขึ้นที่อาจส่งผลให้ความเชื่อที่ว่า "รถคือปัจจัยที่ 5" ลดความสำคัญลง (Mobility as a service) สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ทั่วโลกที่มีแนวโน้มชะลอลง ทำให้ช่วงเวลาแห่งการปลี่ยนผ่านนี้ รถมือสองดูเหมือนจะเป็นทางลือกหนึ่งที่หลายคนเริ่มมองหา ในช่วงที่ภาวะการเงินของครัวเรือนได้รับผลกระทบและมีความไแน่นอน แต่ยังมีความจำเป็นต้องใช้รถเพื่อเดินทางไปทำงาน หรือเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศแทนการเดินทางด้วยครื่องบินหรือการท่องเที่ยวต่างประเทศจากความกังวลด้านสุขภาพ

ดังนั้น KKP Research คาดว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่จะลดลงเหลือเพียง 651,000 คัน คิดเป็นการหดตัวถึง 35% ในปีนี้ จากในช่วง6เดือนแรกของปีนี้ หดตัวแล้วถึง 37% เนื่องจากตลาดรถยนต์ใหม่เร่ิมแผ่วลงตั้งแต่ปี2561 และหลังจากนั้นถูกซ้ำเติมจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทำให้กำลังซื้อของประชากรลดลงจากผลกระทบต่อรายได้และความเสี่ยงจากการถูกเลิกจ้าง

อย่างไรก็ตามภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบหนักจากสถานการณ์โควิด-19 อีกทั้งแนวโน้มยอดขายรถยนต์ในประเทศในระยะต่อไปอาจไม่กลับมาแตะหลัก 1 ล้านคันต่อปีได้อีก จากกาวะหนี้ครัวเรือนและปัจจัยทางประชากรกำลังซื้อที่ลดลงและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางหลังโควิด-19 จากความกังวลต่อสุขภาพส่งผลให้ ตลาดรถมือสองกลับมาคึกคักขึ้นในระยะสั้น

สำหรับตลาดรถมือสอง มองว่า มีแนวโน้มแผ่วลงอีกครั้งในไตรมาส 4 หลังการพักชำระหนี้สิ้นสุดลง ซึ่งอาจส่งผลให้มีอุปทานรถมือสองล้นตลาดและราคาปรับลดลง ขณะที่อนาคตตลาดรถยนต์และอุตสหกรรมรถยนต์ไทยจะผชิญความททายทั้งจากความต้องการในประเทศที่ชะลอลงและเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ที่จะทยอยข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด