'วิชา' ยืนยันยังไม่มีการถอนหมายจับ 'บอส อยู่วิทยา'

นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย การสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ขับรถรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันนี้ (5ส.ค.) ได้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น โดยมีการประสานไปยังอธิบดีผู้พิษากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เกี่ยวกับเรื่องหมายจับ ในกรณีพนักงานสอบสวนขอถอนหมายจับเพื่อให้คดียุติ

ทั้งนี้ ได้รับการอธิบายว่ากรณีดังกล่าว มีกลุ่มมวลชน นำโดยน.ส.รสนาโตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มายืนคำร้องขอศาลว่าอย่าเพิกถอนหมายจับ ศาลจึงเห็นความสำคัญว่าต้องมีการไต่สวนก่อน แต่เมื่อมวลชนกลุ่มนี้ยังคงร้องกดดัน พนักงานสอบสวนจึงถอนคำร้อง

"ขอยืนยันว่าหมายจับในคดีนี้ยังอยู่ เนื่องจากคดียังไม่ยุติ และยังคงอยู่ในองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือ อินเตอร์โพล ซึ่งจะถอดไปแล้วหรือไม่นั้นยังไม่ชัดเจน เพราะไม่สามารถแทรกแซงอินเตอร์โพลได้ แต่ในบ้านเรายืนยันว่าหมายจับยังอยู่ ซึ่งสอดคล้องกับข้อแถลงของคณะทำงานอัยการฯ ที่ชี้แจงว่ามีข้อมูลใหม่ ซึ่งเป็นเหตุให้ถอนหมายจับไม่ได้ ยืนยันคดีนายบอสยังไม่จบ ขอให้ประชาชนสบายใจ" นายวิชา กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 6 ส.ค. คณะทำงานชุดตรวจสอบอัยการ ที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธานฯ จะเรียกพยานใหม่มาสอบ ทั้งการทำสำนวน ดังนั้น ขอให้สื่อมวลชนรอติดตาม เพราะจะมีการแจ้งให้ทราบที่สำนักงานกฤษฏีกา โดยมีประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะทำงานฯ มาให้ถ้อยด้วย

ส่วนสำนวนชุดอื่นๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ที่ตรวจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ อยู่ระหว่างจัดทำหนังสือเพื่อขอข้อมูลทั้งหมด แต่ขณะนี้ได้ประสานงานแล้ว ขณะเดียวกัน จะมีการสอบอัยการซึ่งให้อัยการรวบรวมสำนวน ที่มีข้อโตแย้งแต่ตั้งแรก ในวันที่ 9 ส.ค.นี้

นายวิชา กล่าวต่อว่า จากนั้นจะเรียก ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นพยานใหม่ในเรื่องความเร็ว และเชิญ พล.อ.ต.นพ.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม หัวหน้าสาขาวิชานิติเวชวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มาให้ข้อมูลเรื่องโคเคน ที่สำนักงานกฤษฏีกา

อย่างไรก็ตาม อะไรที่เป็นประเด็นส่งสัยของประชาชน และข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญที่มีการเสนอ นำมาเสนอคณะกรรมการได้นำมาพิจารณาทั้งหมด ซึ่งในระยะแรกนี้ หากประชาชนมีข้อมูลเกี่ยวข้องกับคดี สามารถส่งมายังอีเมล์ของตน [email protected] แต่หลังจากนี้จะมีการสร้างอีเมล์กลาง เพื่อเป็นฐานข้อมูลในรับเรื่องราวนี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะมีการแจ้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ส่วนข้อบกพร่องเรื่องกฎหมาย รายละเอียดทั้งหมดขอให้ไปถามกฤษฏีกาเอง โดยจะมีการประชุมนัดใหญ่ในวันที่ 11 ส.ค. เวลา 15.00 น. ซึ่งจะเรียกพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าหารือด้วย ทั้งนี้ หลังครบ 10 วัน จะมีการรายงานผลให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบ ซึ่งนายกฯไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพียงขอให้ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกเรื่องกระจ่าง

สำหรับเรื่องเงินจะเป็นตัวแปรให้คดีนี้ไม่สั่งฟ้องหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งเป็นเรื่องที่ ปปง.ต้องตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน และยังไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเป็นเรื่องของการเข้าข่ายประพฤติมิชอบ ซึ่งต้องติดตามเส้นทางการเงินผู้ต้องสงสัย