'จุรินทร์' ยัน 'ประชาธิปัตย์' พร้อมหนุนแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย

'จุรินทร์' ยัน 'ประชาธิปัตย์' พร้อมหนุนแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย

"จุรินทร์" ยัน "ประชาธิปัตย์" พร้อมหนุนแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ถ่อมตัวเป็นเพียงฟันเฟืองเล็กๆในการช่วยหลอมรวมความเป็นหนึ่ง ลั่นไม่ประสงค์ขัดแย้งกับใคร

เมื่อวันที่ 5 ส.ค.63 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีอละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ตังแต่ตอนเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะได้กำหนดเป็นเงื่อนไขไว้เมื่อได้รับเชิญจากพรรคพลังประชารัฐให้ร่วมรัฐบาล ว่า หากจะเข้าร่วมรัฐบาล จะต้องมีการกำหนดการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้เป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็ได้สนองตอบ และได้แถลงเป็นนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาไว้ชัดเจนว่าจะสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ บอกว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ได้กำหนดไว้ว่าอย่างน้อยที่สุดต้องแก้ไข มาตรา 256 ซึ่งเป็นบทที่ว่าด้วยกระบวนการและวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ทำให้เกิดขึ้นได้ยากกว่า เพราะในอดีตการแก้ไขอาศัยเพียงเสียงเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมรัฐสภา แต่ฉบับนี้มีการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมที่จะต้องมีเสียงของฝ่ายค้านไม่น้อยกว่า ร้อยละ 20 และเสียงวุฒิสภาไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 รวมทั้งยังต้องทำประชามติอีก ดังนั้นขั้นตอนเหล่านี้ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ยาก และหลายฝ่ายก็เป็นห่วงว่าสุดท้ายจะนำไปสู่การฉกรัฐธรรมนูญอีก ดังนั้นการแก้มาตรา256 จึงเป็นเรื่องที่มีความจำเป็น

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น หากมีประเด็นใดก็ตามที่นำไปสู่การเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ประชาธิปัตย์ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุน แต่โดยเหตุที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นจำเป็นที่จะต้องมีเสียงไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 คือ ต้อง 100 เสียงขึ้นไป ในการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีไม่ถึง ดังนั้นจะเสนอโดยลำพังไม่ได้ จำเป็นต้องร่วมมือกับเพื่อนสมาชิกคนอื่นๆ

ดังนั้นแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์คือต้องหารือกันในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ว่าจะดำเนินการในลักษณะรูปแบบใด โดยได้มอบหมายให้วิปเป็นผู้ไปประสานงานกับวิปรัฐบาลในการดำเนินการต่อไป ที่สำคัญคือพรรคประชาธิปัตย์ไม่ประสงค์ที่จะขัดแย้งกับใครหรือฝ่ายใดในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้าน วุฒิสมาขิก และประชาชนทั้งประเทศ และประชาธิปัตย์ต้องการเห็นความสำเร็จและผลสัมฤทธิ์เกิดขึ้นจริง สามารถแก้ได้จริง ซึ่งความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยความร่วมมือ ซึ่งพรรคประขาธิปัตย์เข้าใจประเด็นนี้ดี จึงไม่ประสงค์จะขัดแย้งกับใครได้ นอกจากจะเป็นตัวเล็กๆหรือฟันเฟืองเล็กๆ กลไกหนึ่งในการช่วยหลอมรวมความเป็นหนึ่งเดียวเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประสบความสำเร็จจริงที่จะเกิดขึ้น

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวย้ำว่า ได้คุยกันตั้งแต่ต้นตอนเป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลแล้ว และไม่คิดว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ และเมื่อวานได้หยิบยกประเด็นนี้มาหารือกัน นายกรัฐมนตรีก็ไม่ปฏิเสธ และบอกว่าพร้อมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะมีการบรรจุไว้ในนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ส่วนจะเสนอเป็นญัตติของรัฐบาลเลยหรือไม่ ยังตอบล่วงหน้าไม่ได้ ต้องขอให้วิปรัฐบาลไปหารือกันก่อน แต่ส่วนตัวคิดว่าหากเสนอในนามพรรคร่วมรัฐบาลได้จะเป็นเรื่องดี

ส่วนที่ใ่ายค้านเสนอให้มี สสร. นั้น เป็นรายละเอียดที่ขอให้มีการไปหารือก่อน แต่หลักของพรรคประชาธิปัตย์ คืออะไรก็ตามที่นำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นประชาธิปัตย์ก็พร้อมที่จะสนับสนุน