ตลท.เลิกเกณฑ์ 'มาร์เก็ตแคป' เอ็มเอไอ

ตลท.เลิกเกณฑ์ 'มาร์เก็ตแคป' เอ็มเอไอ

ตลท.ยกเลิกเกณฑ์รับหุ้นไอพีโอมาร์เก็ตแคปของตลาดเอ็มเอไอ พร้อมเพิ่มเกณฑ์รับหุ้นโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าต่ำกว่า 2,000 ล้านบาทแทน หวังเอื้อโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดเล็กเข้าถึงแหล่งระดมทุน มีผลบังคับใช้ 17 ส.ค.นี้

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่าตลาดหลักทรัพย์ฯได้ดำเนินการตามแผนการปฏิรูปกฎเกณฑ์ (Regulatory Reform) อย่างต่อเนื่องตามที่ได้รับความเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุน โดยล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ฯได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนและบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งมุ่งเน้นใน 3 ด้าน

ทั้งนี้ในเรื่องแรกนั้นคือการเพิ่มคุณภาพบจ. โดยได้มีการยกเลิกหลักเกณฑ์การรับหุ้นสามัญด้วยมูลค่าหุ้นสามัญตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และเพิ่มหลักเกณฑ์การรับหุ้นสามัญสำหรับบริษัทที่มีการประกอบธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐาน (Infrastructure Company) ที่จะเข้าจดทะเบียนใน mai เพื่อสนับสนุนโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดเล็กซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยที่มีมูลค่าโครงการรวมไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท

ขณะที่ในส่วนของการรับหุ้นสามัญด้วยเกณฑ์มาร์เก็ตแคปในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ยังคงเป็นไปตามเดิม โดยตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ระหว่างการพิจารณาการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวต่อไป

ถัดมา2.เพิ่มข้อมูลสำหรับผู้ลงทุน โดยบริษัทที่เข้าจดทะเบียนใหม่ต้องจัดประชุมเพื่อนำเสนอและชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจและผลการดำเนินงานแก่ผู้ถือหุ้น,ผู้ลงทุน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง (Opportunity Day) อย่างน้อย 1 ครั้งภายในปีแรกที่เข้าจดทะเบียนเพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลดังกล่าวสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูลตลอดจนซักถามผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนเช่นเดียวกับนักวิเคราะห์ พร้อมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์รับหลักทรัพย์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงยังกำหนดให้บจ.ต้องเปิดเผยข้อมูลทันทีเมื่อเปลี่ยนแปลง CEO หรือเปลี่ยนแปลงกรรมการเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด เนื่องจากเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับผู้ลงทุน

และสุดท้าน3.สนับสนุนการทำธุรกรรมของ บจ. เช่น ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) หลักเกณฑ์การเพิกถอนหุ้นโดยสมัครใจสำหรับบริษัทจดทะเบียนกรณีบริษัทจดทะเบียนมีการปรับโครงสร้างการถือหุ้น เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์อื่นๆเพื่อเพิ่มความชัดเจนและสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)