‘ซีไอเอ็มบีไทยออโต้’ หั่นเป้าสินเชื่อ 50%

‘ซีไอเอ็มบีไทยออโต้’ หั่นเป้าสินเชื่อ 50%

“ซีไอเอ็มบี ออโต้” ปรับเป้ายอดปล่อยสินเชื่อรถมือสองปีนี้ ลง 50% เหลือ 1 หมื่นล้าน จากเดิม 1.8 หมื่นล้าน เหตุเข้มงวดอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น หลังโควิดระบาด เตรียมยื่นขอไลเซ่นส์ ปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนปลายปี63 หวังเพิ่มฐานรายได้ปี64

นายวิสิทธิ์ พึ่งพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีไอเอ็มบีไทย ออโต้ จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ในเครือ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT เปิดเผยว่า  บริษัทปรับลดเป้าหมายยอดปล่อยสินเชื่อในปี 2563 ลดลง 50% มาอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท จากเดิมคาดไว้ที่ 18,000 ล้านบาท เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้บริษัทมีความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา บริษัทมีความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น แต่บริษัทก็จะมีการประเมินสถานการณ์ทุกเดือน หากตลาดช่วงที่เหลือของปีนี้ฟื้นตัวก็มีโอกาสปรับเป้าหมายกลับขึ้นได้

“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อ ภาพรวมยอดซื้อรถมือสองในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้ ลดลงราว 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ประกอบกับบริษัทมีความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อมากกว่าที่อื่น ทำให้มียอดปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 15-20% จากปกติอยู่ที่ 10% แต่ช่วงที่ผ่านมาบริษัทช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับกระทบจากโควิด-19 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพักชำระหนี้ราว 50% พอร์ตสินเชื่อคงค้างมีทั้งสิ้น 40,000 ล้านบาท จำนวน 160,000 บัญชี ขณะนี้เริ่มกลับมาชำระหนี้ได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่ยังต้องรอประเมินสถานการณ์ในไตรมาส 3 นี้ก่อน”

สำหรับหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของบริษัท ปัจจุบันอยู่ประมาณ 1% กว่า ส่วนหนึ่งมาจากการเข้มงวดปล่อยสินเชื่อและจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องรอประเมินภาพรวมภาพ NPL หลังไตรมาส 3 นี้อีกครั้งน่าจะเห็นชัดขึ้น

ส่วนทิศทางการทำตลาดสินเชื่อรถมือสองช่วงที่เหลือของปีนี้ ประเมินว่า เต็นท์รถมือสองยังมียอดขายที่ดี เพราะราคาถูกกว่ารถมือหนึ่ง และจากโควิด-19 ระบาดทำให้ประชาชนไม่ใช่รถสาธารณะ หันมาซื้อรถมือสองมากกว่า โดยรถมือสองราคาเฉลี่ย 200,000-300,000 บาทต่อคัน มียอดขายเพิ่มขึ้นช่วยหนุนให้ยอดขายยังไม่ลดลงมากนัก

บริษัทยังอยู่ระหว่างการเตรียมตัวเพื่อขอใบอนุญาตปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนแบบพีโลน ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียนต่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าจะเริ่มต้นธุรกิจใหม่ได้ช่วงต้นปี 2564 ซึ่งเลื่อนจากแผนเดิมวางไว้ช่วงปลายปีนี้แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่นิ่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานรายได้ให้กับทางบริษัท ถึงแม้  ธปท. ปรับลดเพดานดอกเบี้ยดังกล่าวจาก 28% เหลือ 24% เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยในปีนี้ มองว่า การลดดอกเบี้ยที่ 2-4% ถือว่าลดไม่มาและบริษัทสามารถบริหารหนี้รถมือสองได้ดี โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างจัดทำระบบรองรับงานดังกล่าว