แบงก์ยกเครื่อง ‘โมบายแอพ’ เจาะไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

นายอารักษ์ สุธีวงศ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ธนาคารเห็นการเปลี่ยนผ่านของลูกค้าที่หันมาใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะการทำธุรกรรมการเงินผ่านโมบายแบงกิ้ง และการเข้ามาของไวรัสโคโรนา สายพันธ์ใหม่ หรือโควิด-19 ที่ยิ่งเป็นตัวเร่งให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเร็วขึ้น

ดังนั้นคาดว่าเมื่อโควิด-19 ผ่านไป จะเห็นยอดการใช้งานผ่านโมบายแบงกิ้งเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกค้าที่หันมาใช้โมบายแบงกิ้งของธนาคาร ผ่าน SCB EASY App ที่คาดว่าสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 13 ล้านราย จากช่วงครึ่งปีแรก ที่ธนาคารมีฐานลูกค้า ผู้ใช้งานทั้งสิ้น 11.3 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของลูกค้าธนาคารจำนวน 16 ล้านราย

ทั้งนี้ ธนาคารมียอดลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 898,000 ราย มีสัดส่วนผู้ใช้งานเป็นประจำรายสัปดาห์ (active user) อยู่ที่ระดับ 71% นอกจากนี้ยอดเปิดบัญชีออนไลน์มีการเติบโตกว่า 83% ยอดสมัครสินเชื่อใหม่บนดิจิทัล หรือ digital lending ผ่าน SCB EASY ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 41%

ด้านนายรถพร เอกบุตร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาดิจิทัลโซลูชั่นเพื่อลูกค้ารายย่อย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY กล่าวว่า จำนวนการทำธุรกรรมผ่านช่องทางโมบายแบงกิ้งของธนาคาร หรือ KMA ปัจจุบันปรับตัว เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด ตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 โดยจำนวนผู้ใช้ KMA เติบโตเพิ่มขึ้น 35% และจำนวนบัญชีที่ Active หรือทำธุรกรรมต่อเนื่องสม่ำเสมอเติบโตขึ้น50% หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

ทั้งนี้ หากดูการทำธุรกรรม “พร้อมเพย์”ผ่าน KMA พบว่าเติบโตขึ้นถึง 200% หากเทียบกับปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกันยอดเปิดบัญชีออมทรัพย์ออนไลน์ “กรุงศรีมีแต่ได้ ออนไลน์” ผ่านการยืนยันตัวตนด้วยระบบ NDID (National Digital ID)และจุดบริการยืนยันตัวตน Krungsri i-Confirm เติบโตขึ้นสูงมาก โดยตัวเลขการเปิดบัญชีคิดเป็นอัตราการเติบโตขึ้น 410% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปี ขณะที่ยอดธุรกรรมทางการเงินไตรมาส2พบว่าโดยรวมอยู่ที่ 740 ล้านรายการ มูลค่ารวมกว่า 302,000 ล้านบาท

“หากดูการทำธุรกรรมทางการเงินที่ผ่านมาเติบโตก้าวกระโดดทั้ง โอนเงิน ชำระสินค้า พร้อมเพย์ กดเงินไม่ใช้บัตร จากโควิด-19ที่เป็นตัวเร่ง ทำให้เห็นทุกธุรกรรมเติบโตบนออนไลน์ เช่นโอนเงินเติบโต80% ชำระค่าสินค้าบริการโต 21% การเติมเงินเพิ่ม 24%และกดเงินไม่ใช้บัตรสูงถึง 2.7 ล้านครั้ง หรือเพิ่มราว 37% จากช่วงเดียวกันปีก่อน”

ทั้งนี้ เชื่อว่าหลังจากนี้ จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เร่งให้เกิด Cashless Society ได้เร็วขึ้น ดังนั้นถือธนาคารมองว่าเป็นความท้าทายของทุกธนาคารที่ต้องเร่งยกระดับและพัฒนาโมบายแอพฯ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ใหม่ ควบคู่ไปกับการรักษาความปลอดภัยของระบบ และจะเห็นกลยุทธ์หรือ customer journey ใหม่ๆมากขึ้น ดังนั้นธนาคารต้องเร่งพัฒนาโมเดลธุรกิจเพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากขึ้น

“ที่ผ่านมา ธนาคารมีการจัดตั้งบริษัท Krungsri Nimble ก็หวังว่าจะมาทำหน้าที่เป็นฮับในการสร้างและดูแลโซลูชั่นด้านไอที เพื่อหนุนในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับกรุงศรีมากขึ้น ซึ่งก็สะท้อนว่าเรามุ่งมั่นในการยกระดับด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและตอบโจทย์ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”