เกมนี้รู้ทันค่ะ แผนล่อ 'หน่อย' ออกจากถ้ำ

เพียงแต่ “สุดารัตน์” ไม่ยอมรับคำสั่งจากดูไบ แก้เกมส่งตัวเองนั่งแท่นคนสรรหาแทน

เกมของ “บิ๊กบอสดูไบ” ได้รับคำแนะนำจาก “กลุ่มคนไม่เอาเจ๊หน่อย” ซึ่งนับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น ไล่ไปตั้งแต่ระดับ กรรมการบริหารพรรคพท.-ส.ส.เพื่อไทย-สมาชิกพรรคเพื่อไทย เพราะต่างก็รู้พิษสงของ “สุดารัตน์” เป็นอย่างดี

“สุดารัตน์” รู้ดีกว่าหากหลงเหลี่ยมคำยุยงจาก “นายใหญ่-แกนนำพท.” ที่ไฟเขียวให้ลงสมัครรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เท่ากับว่า “สุดารัตน์” จะไม่มีที่ยื่นภายในพรรคเพื่อไทยอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้บรรดา “ศิษย์รัก” ต้องตกระกำลำบากตามไปด้วย โดยเฉพาะ “อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” เลขาธิการพรรค มีโอกาสหลุดจากเก้าอี้ได้ง่ายๆ

แผนของ “กลุ่มคนไม่เอาเจ๊หน่อย” ต้องการรีเซ็ตพรรคเพื่อไทยใหม่ แต่ “สุดารัตน์” ยังนั่งขวางทางอยู่ หากส่งเสริมให้ “สุดารัตน์” จากไปได้ด้วยดี ไม่ขยายแผลให้พรรคแตกหนักกว่าเดิม ทั้ง “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย “ภูมิธรรม เวชชยชัย” ยึดพรรคได้เบ็ดเสร็จ

เกมนี้ “สุดารัตน์” รู้ทันไม่หลงแผนล่อเสือออกจากถ้ำ เบี่ยงกระแสบีบให้ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. เพราะรู้อยู่เต็มอกว่า เพียงแค่ประกาศชื่อก็แพ้ตั้งแต่ไก่โห่ จึงเสนอชื่อ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” จากเดิมที่จะลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ในนามอิสระ ให้มาสมัครในนามพรรคเพื่อไทย

ฝั่ง “ชัชชาติ” ก็ทันเกม รู้ว่าหากลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย มีโอกาสแพ้ศึกยึดเมืองหลวงสูงมาก เพราะแบรนด์ “เพื่อไทย” นอกจากจะต้องแข่งกับ “พลังประชารัฐ” แล้ว ยังต้องเจียดคะแนนให้ “พรรคก้าวไกล” อีก

เมื่อคำนวณทางลมแล้ว “ชัชชาติ” ยังยืนยันจะของลงในนามอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับพรรคการเมืองใด เมื่อ “สุดารัตน์” ไม่อยากลงสมัครผู้ว่าฯกทม. เพราะเกรงจะเสียอำนาจในพรรคเพื่อไทย เมื่อประกาศตัวเป็นหัวหน้าทีมคัดเลือกผู้สมัคร จึงต้องหาตัวแทนที่เหมาะสม

หากเดินเกมพลาด “กลุ่มคนไม่เอาเจ๊หน่อย” รอยัดชื่อ “สุดารัตน์” ลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. แม้เจ้าตัวจะไม่เต็มใจก็ตาม