พิษฝนตกหนัก! น้ำไหลหลาก 10 จังหวัด กระทบประชาชน 1,399 ครัวเรือน

พิษฝนตกหนัก! น้ำไหลหลาก 10 จังหวัด กระทบประชาชน 1,399 ครัวเรือน

เหตุน้ำไหลหลาก 10 จังหวัด พิษฝนตกหนัก กระทบประชาชน 1,399 ครัวเรือน

วันนี้ (3 ส.ค.63) เวลา 09.00 น. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน (3 ส.ค.63) เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ น่าน อุตรดิตถ์ ลำปาง พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี และนครพนม รวม 23 อำเภอ 46 ตำบล 130 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,399 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลจากพายุ “ซินลากู (SINLAKU)” ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 ถึงปัจจุบัน (3 ส.ค.63) ส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำไปหลากในพื้นที่ 10 จังหวัด รวม 23 อำเภอ 46 ตำบล 130 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,399 ครัวเรือน

ได้แก่ น่าน ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองน่าน อำเภอภูเวียง อำเภอนาน้อย อำเภอเวียงสา อำเภอปัว และอำเภอบ้านหลวง รวม 11 ตำบล 30 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 224 ครัวเรือน
อุตรดิตถ์ ในพื้นที่อำเภอฟากท่า รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 22 ครัวเรือน
ลำปาง ในพื้นที่อำเภอวังเหนือ อำเภอแจ้ห่ม และอำเภอเมืองปาน รวม 8 ตำบล 14 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30 ครัวเรือน

พะเยา ในพื้นที่อำเภอปง อำเภอเชียงม่วน และอำเภอเมืองพะเยา รวม 7 ตำบล 10 หมู่บ้าน
เชียงราย ในพื้นที่อำเภอเวียงป่าเป้า รวม 2 ตำบล 17 หมู่บ้าน
เชียงใหม่ ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน
เลย ในพื้นที่อำเภอเมืองเลย อำเภอเชียงคาน และอำเภอปากชม รวม 6 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 680 ครัวเรือน

หนองบัวลำภู ในพื้นที่อำเภอนากลาง และอำเภอนาวัง รวม 5 ตำบล 15 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 250 ครัวเรือน
อุดรธานี ในพื้นที่อำเภอนายูง และอำเภอน้ำโสม รวม 4 ตำบล 12 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 190 ครัวเรือน
และนครพนม ในพื้นที่อำเภอบ้านแพง รวม 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว ท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป