บ็อกซ์ ออฟฟิศจีนแตะ 500 ล้าน เพียงสัปดาห์แรกหลังกลับมาเปิดให้บริการ

บ็อกซ์ ออฟฟิศจีนแตะ 500 ล้าน เพียงสัปดาห์แรกหลังกลับมาเปิดให้บริการ

สถานการณ์ของโรงภาพยนตร์แดนมังกรไม่เลวร้ายอย่างที่คิด สามารถทำรายได้ 'บ็อกซ์ ออฟฟิศ' แตะระดับ 100 ล้านหยวน (เกือบ 500 ล้านบาท) ในช่วงสัปดาห์แรกหลังจากที่กลับมาเปิดให้บริการในยุค 'โควิด-19'

เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมาธิการกิจการภาพยนตร์แห่งประเทศจีนได้อนุมัติให้โรงภาพยนตร์ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำกลับมาเปิดให้บริการได้แล้วภายใต้เงื่อนไขของการเฝ้าระวังหลายประการ อาทิ จำกัดจำนวนผู้ชมในโรงให้เหลือเพียง 30 เปอร์เซ็นต์, ห้ามดื่มน้ำหรือกินอาหารในโรงภาพยนตร์ ฯลฯ

ส่วนปัจจุบันนี้มีเมืองเพียง 2 เมืองเท่านั้นในจีนที่ถูกจัดว่าอยู่ในพื้นที่ความเสี่ยงสูงหรือความเสี่ยงปานกลาง นั่นคือ เมืองอูรุมฉี ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และเมืองต้าเหลียน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

159638754852

Credit : AFT

ขณะที่ข้อมูลจาก Lighthouse Data แพลทฟอร์มจัดเก็บบิ๊กดาต้าในอุตสาหกรรมบันเทิง รวมถึงตัวเลข 'บ็อกซ์ ออฟฟิศ' จีน รายงานว่าจำนวนโรงภาพยนตร์ที่เปิดฉายหนังทั่วแดนมังกรในสัปดาห์แรก หลังจากที่รัฐบาลไฟเขียวให้โรงภาพยนตร์กลับมาเปิดให้บริการได้แล้วนั้นมีอยู่ราว 416,600 โรง ส่วนรายได้รวมจากการฉายหนังทุกเรื่องนั้นอยู่ที่ 109.39 ล้านหยวน (ราว 460 ล้านบาท)

ขณะที่ข้อมูลจาก Maoyan แอพพลิเคชั่นขายตั๋วหนังชั้นนำของจีน ระบุว่า ในวันแรกที่กลับมาเปิดให้บริการ โรงหนังทั่วจีนทำรายได้ทั้งสิ้น 3.28 ล้านหยวน จากการขายตั๋วหนัง 130,000 ใบ ซึ่งนับเป็นสัดส่วนราว 1.7 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้เฉลี่ยต่อวันที่โรงหนังในจีนเคยทำเอาไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมของปี 2562

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนมีศักยภาพที่จะฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 โดยภาพยนตร์ที่กวาดรายได้ไปมากที่สุดในช่วงสุดสัปดาห์แรกที่โรงหนังเปิดยังคงเป็นหนังฮอลลีวูด นั่นคือ 'Dolittle' จากค่าย 'ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส' ซึ่งทำรายได้ไปมากถึง 38.51 ล้านหยวน ตามมาด้วยหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง 'Bloodshot' ที่บริษัท Bona ของจีน ไปเป็นหุ้นส่วนในการผลิตร่วมกับ 'โซนี พิคเจอร์ส' กวาดรายได้ไป 20.59 ล้านหยวน เฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์แรกเท่านั้น

159638749630

                                   ระวังหนังหมดสต็อก

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าในช่วงแรกนี้ชาวจีนจะกลับมาดู ‘หนังโรง’ กันอย่างหนาตา แต่ผู้เชี่ยวชาญในวงการกลับเตือนว่าให้ระวังผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้การถ่ายทำภาพยนตร์ต้องหยุดชะงักลงเป็นเวลาหลายเดือน

ซึ่งนั่นหมายความว่า อีกไม่นานผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ในจีนก็จะประสบกับปัญหาเดียวกับที่ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ในประเทศอื่น รวมถึงประเทศไทยเรา กำลังเผชิญอยู่ นั่นก็คือ การไม่มีหนังเรื่องใหม่ที่ดึงดูดใจพวกเขามาเข้าโรงฉาย แล้วจำนวนคนที่เข้าไปดูหนังในโรงก็จะค่อย ๆ น้อยลง ไม่คึกคักเหมือนในช่วงแรกนี้

อวี่ ต้ง (Yu Dong) ผู้ก่อตั้งบริษัท โบนา ฟิล์ม กรุ๊ป จำกัด (Bona Film Group) ค่ายหนังชั้นนำของจีน ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เอาไว้ในพิธีเปิด 'เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเซี่ยงไฮ้' ครั้งที่ 23 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า การที่ภาพยนตร์ต้องหยุดผลิตโดยสิ้นเชิงเพราะการระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่มีหนังใหม่ ๆ เข้ามาในสายการผลิต

ดังนั้น ราวเดือนมีนาคมปีหน้า (2021) ประเทศจีนจะประสบปัญหาไม่มีภาพยนตร์เรื่องใหม่ ๆ มาเข้าฉายในโรงหนัง

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนเป็นหนึ่งในภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากโควิด-19 เพราะโรงหนังส่วนใหญ่ต้องปิดให้บริการเป็นเวลาเกือบครึ่งปี ซึ่งการไม่มีรายได้เข้ามาเลย แต่ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ยังคงมีอยู่ทำให้บริษัทภาพยนตร์จีนจำนวนมากตกอยู่ในสภาวะเกือบล้มละลาย

แม้แต่กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง หวั่นต้า ฟิล์ม โฮลดิง (Wanda Film Holding) ยังประเมินว่าจะขาดทุนสุทธิเกือบ 1,500 ล้านหยวน ในปีนี้ ขณะที่บริษัท Bona เองก็ได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัสกว่าอีกหลายบริษัท นั่นเพราะ Bona เป็นทั้งผู้ผลิตภาพยนตร์ และเป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ 41 แห่งในจีน นั่นเท่ากับว่าต้องเจอผลกระทบถึง 2 เท่า

                             หนังฮอลลีวูดจ่อคิวเข้าโรง

สำหรับการแก้ปัญหาหนังขาดแคลนของผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ในจีนก็ไม่ต่างจากหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยเรา นั่นก็คือ การนำหนังฮอลลีวู้ดที่เคยได้รับความนิยมกลับเข้ามาฉายในโรงใหม่ โดยหนังที่จ่อคิวเข้าโรงฉายในแดนมังกรก็มีตั้งแต่ 'แฮร์รี พอตเตอร์' ภาคแรก (Harry Potter and the Sorcerer's Stone) รวมไปถึงหนังสงคราม 3 รางวัลออสการ์เรื่อง 1917

159638778343

สำหรับ 'แฮร์รี พอตเตอร์' นั้นจะนำออกฉายในระบบ 3D and 4K เพื่อเป็นการฉลองวาระครบรอบ 20 ปีที่หนังสือ 'แฮร์รี พอตเตอร์' เล่มแรกตีพิมพ์ในจีนเมื่อปี ค.ศ. 2000 นอกจากนี้แล้ว 'เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเซี่ยงไฮ้' ยังจัดฉายหนังแฮร์รี พอตเตอร์ ภาคต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกันด้วย

ส่วนทางค่ายวอล์ท ดิสนีย์ นั้นเตรียมส่งเรื่อง Jojo Rabbit และ Ford v Ferrari มาเข้าฉายในจีน ขณะที่โซนี พิคเจอร์ส ส่ง Bad Boys for Life ซึ่งปัจจุบันครองตำแหน่งหนังที่ทำรายได้สูงสุดทั่วโลกประจำปี 2020 มาเข้าฉาย รวมถึง Sonic the Hedgehog จากพาราเมาท์ พิคเจอร์ส เจ้าของตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดทั่วโลกประจำปี 2020