'ธนาธร' วอน 'อาชีวะ' ส่งเสียง! อย่าให้ใครอ้างชื่อก่อม็อบชนม็อบ

'ธนาธร' วอน 'อาชีวะ' ส่งเสียง! อย่าให้ใครอ้างชื่อก่อม็อบชนม็อบ

"ธนาธร" วอน "อาชีวะ" ออกมาส่งเสียงของตัวเอง ชี้เวลานี้คือจุดเปลี่ยนของประเทศ อยากเห็นสังคมเป็นอย่างไร ต้องลุกขึ้นมาส่งเสียงด้วยตัวเอง

วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ร่วมจัดรายการ ก้าวหน้า Talk กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โดยมีผู้ชมถามถึงเรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนักศึกษาอาชีวะ ทั้ง "กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ" ที่ชุมนุมปกป้องสถาบัน และกลุ่ม "สามพระจอมจะยอมได้ไง" เครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าฯ 3 แห่ง ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ หรือ มจพ. ร่วมกับกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน และกลุ่มอาชีวะโค่นเผด็จการ ที่เรียกร้องการแก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภา และยกเลิกกฎหมายที่คุกคามเสรีภาพประชาชน

นายธนาธรกล่าวว่า ตลอดชีวิตการทำธุรกิจ 20 ปี ตนทำงานกับคนอาชีวะมาโดยตลอด เพราะพนักงานส่วนใหญ่ในโรงงานเป็นคนที่จบอาชีวะ และตนเองชื่นชมความสามารถของคนสายช่างว่ามีส่วนอย่างมากในการพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ โดยนายธนาธรเล่าว่า คนที่จบอาชีวะในโรงงานตนเอง สามารถเขียนโปรแกรมควบคุมหุ่นยนต์ที่มีความสลับซับซ้อนสูงได้ พิสูจน์ว่าพวกเขามีศักยภาพสูง และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ

คนอาชีวะ เป็นกำลังหลักในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ในยุค 14 ตุลา 2516 กลุ่มคนที่นอนขวางรถถัง ก็เป็นเด็กอาชีวะ กลุ่มคนที่เข้าไปถอดสลัก รื้อฟันเฟืองรถถังจนวิ่งไม่ได้ ก็อาชีวะ เพราะเด็กมหาวิทยาลัยสายสามัญทำไม่เป็น

นอกจากนี้ นายธนาธรยังกล่าวว่า คนอาชีวะ เป็นกำลังหลักในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ในยุค 14 ตุลา 2516 กลุ่มคนที่นอนขวางรถถัง ก็เป็นเด็กอาชีวะ กลุ่มคนที่เข้าไปถอดสลัก รื้อฟันเฟืองรถถังจนวิ่งไม่ได้ ก็อาชีวะ เพราะเด็กมหาวิทยาลัยสายสามัญทำไม่เป็น

"จะเห็นได้ว่าในประวัติศาสตร์ กลุ่มอาชีวะได้เคลื่อนไหวเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกับนักเรียน นักศึกษา เรียกร้องต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นอย่าให้ใครมาอ้างชื่ออาชีวะไปจัดตั้ง ก่อม็อบชนม็อบ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ฝ่ายที่ครองอำนาจอยู่ต้องการ เพื่อจะมีเงื่อนไขก่อรัฐประหาร"

"ผมขอฝากไปถึงชาวอาชีวะทุกคน ส่งเสียงของคุณเองออกมาดังๆ ว่าในภาวะชี้เป็นชี้ตาย ในช่วงเวลาที่เป็นจุดเปลี่ยนของประเทศ เรายืนอยู่ที่ไหน เราอยากเห็นสังคมเป็นอย่างไร อย่าให้ใครมาแอบอ้างชื่อของพวกคุณ ลุกขึ้นมาส่งเสียงของพวกคุณด้วยตัวเอง”

ส่วนนายปิยบุตรเตือนว่า ที่ผ่านมาพอรัฐเห็นว่ากลุ่มอาชีวะรวมตัวกันเข้มแข็ง เป็นกำลังหลักให้กับการเคลื่อนไหวของนักศึกษาประชาชน ก็เข้ามายุยงให้แตกแยก เช่นกรณี 14 ตุลาฯ ที่เด็กอาชีวะมีบทบาทสูง ฝ่ายความมั่นคงจึงเข้ามายุยงแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเด็กอาชีวะ จนในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 2519 อาชีวะบางส่วนถูกจัดตั้งเป็นกลุ่มการเมืองขวาจัด ถูกทหารใช้ในการก่อความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม ในขณะที่อีกจำนวนมากยังคงยืนหยัดร่วมกับผู้ชุมนุมฝ่ายประชาธิปไตย จึงขอให้กลุ่มอาชีวะ ปวช. ปวศ. ในปัจจุบันรวมตัวกันให้เข้มแข็ง อย่าให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอดีต ตกเป็นเครื่องมือฝ่ายขวา นำมาใช้ทิ่มแทงประชาชนด้วยกัน