เอกชนท่องเที่ยวภูเก็ตตีลังกาปรับตัว ดันแฟร์ 'ภูเก็ต...เด็ดทั้งเกาะ' เจาะคนไทย

เอกชนท่องเที่ยวภูเก็ตตีลังกาปรับตัว ดันแฟร์ 'ภูเก็ต...เด็ดทั้งเกาะ' เจาะคนไทย

เอกชนท่องเที่ยวภูเก็ตตีลังกาปรับตัว หั่นราคาดึงลูกค้าไทย จัดคอนซูเมอร์แฟร์ “ภูเก็ต...เด็ดทั้งเกาะ” กระตุ้นกำลังซื้อครึ่งปีหลัง

นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในภูเก็ตจำเป็นต้องปรับตัวแบบตีลังกา ยอมลดราคาสินค้าและบริการ เช่น ห้องพัก แต่ไม่ได้ลดบริการ และหันมาเป็นพันธมิตรร่วมมือด้านการขายกันมากขึ้นเพื่อดึงลูกค้าคนไทยในช่วงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังติดข้อจำกัดด้านการเดินทาง

“หากรัฐบาลไม่มีวี่แววจะเปิดน่านฟ้าให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย เศรษฐกิจของภูเก็ตจะจมลงเรื่อยๆ ต่างจากก่อนหน้านี้ที่สว่างไสว ทำให้เมื่อปี 2562 ผู้ประกอบการโรงแรมกู้เงินธนาคารพาณิชย์เพื่อนำมาปรับปรุงกิจการ รีโนเวตห้องพักกันมาก เพราะคิดว่าภาคท่องเที่ยวภูเก็ตปี 2563 จะดี แต่พอมีโควิด-19 เข้ามาฉุดทุกอย่าง ธนาคารเห็นว่าธุรกิจมีหนี้สูง จึงไม่ปล่อยกู้เพิ่มให้นำเงินมาหมุนสภาพคล่อง จุดนี้ทางสภาฯมองว่าอยากให้ธนาคารพาณิชย์ผ่อนปรนหลักเกณฑ์เพื่อช่วยเหลือลูกค้า”

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากวิกฤติโควิด-19 กระทบต่อภาคท่องเที่ยวภูเก็ตมากว่า 6 เดือน ทำให้ผู้ประกอบการในภูเก็ตต้องปรับตัวแบบทันทีด้วยการรุกจับตลาดนักท่องเที่ยวไทยซึ่งปี 2562 มีคนไทยไปเที่ยวภูเก็ตมากที่สุด 4 ล้านคน จากนักท่องเที่ยวทั้งหมด 14.4 ล้านคน ส่วนอีกกว่า 10 ล้านคนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นชาวจีนมาเที่ยวมากที่สุด 3 ล้านคน

สมาคมฯจึงได้จัดงานคอนซูเมอร์แฟร์ส่งเสริมการขาย “ภูเก็ต...เด็ดทั้งเกาะ” จัดระหว่างวันที่ 30 ก.ค.-2 ส.ค.นี้ ที่ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ เพื่อช่วยกระตุ้นและจูงใจนักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติที่พำนักในไทยตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวภูเก็ตมากขึ้น ภายในงานมีผู้ประกอบการร่วมออกบูธ มอบส่วนลดราคาสินค้าท่องเที่ยวสูงสุด 50-70%

“ภูเก็ตไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มา 60 กว่าวันแล้ว และยืนยันว่าแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ภูเก็ตทุกวันนี้สวยอย่างที่ไม่เคยสวยมาก่อน หวังว่าจะเป็นจุดขายสำคัญที่ช่วยดึงนักท่องเที่ยวไทยเดินทางมาเยือน หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้คลายล็อคดาวน์และอนุมัติให้เปิดบริการสนามบินนานาชาติภูเก็ตสำหรับเที่ยวบินในประเทศเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยบวกให้บรรยากาศการท่องเที่ยวฟื้นตัว มีสายการบิน 5 รายให้บริการ 12 เที่ยวบินต่อวัน จากกรุงเทพฯ เกาะสมุย เชียงราย และอู่ตะเภา และคาดว่าจะเริ่มบินจากพื้นที่อื่นๆ เช่น เชียงใหม่ และอุดรธานีเร็วๆ นี้”

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการปรับกระบวนการให้บริการตามมาตรฐาน SHA ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับกระทรวงสาธารณสุข ปัจจุบันมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวในภูเก็ตได้รับตราสัญลักษณ์ SHA แล้วกว่า 355 ราย มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ถือเป็นนาทีทองของนักท่องเที่ยวไทย เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการได้ใช้กลยุทธ์จัดโปรโมชั่นสินค้าท่องเที่ยวและบริการเพื่อเร่งกระตุ้นการเดินทางเข้าภูเก็ตในครึ่งปีหลัง หลังจากวิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบรุนแรงต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจของภูเก็ตที่มีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว และพึ่งพาจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นหลัก ได้มีการประมาณการจากภาคเอกชนว่าในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตสูญเสียรายได้ไม่น้อยกว่า 1.6 แสนล้านบาท และหากยังไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ตัวเลขความสูญเสียทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาการจ้างงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้