‘ลิสซิ่ง’ แจงพิษโควิดเริ่มคลาย ‘เอ็มทีซี’ ยันไร้กังวลเบี้ยวหนี้

‘ลิสซิ่ง’ แจงพิษโควิดเริ่มคลาย ‘เอ็มทีซี’ ยันไร้กังวลเบี้ยวหนี้

ลูกหนี้กลุ่มเช่าซื้อรถยนต์-จำนำทะเบียนรถ ที่เข้าโครงการพักชำระหนี้ 3 เดือน เริ่มกลับมาชำระหนี้แล้ว “เมืองไทยลิสซิ่ง” แจงจนถึงกลางเดือนก.ค. มีลูกค้าราว 40% ที่กลับมาชำระตามปกติ ย้ำไร้กังวลปัญหาหนี้เสีย เหตุผู้เข้าโครงการพักหนี้มีน้อย

เดือนก.ค.ที่ผ่านมาถือเป็นเดือนแรกที่ลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ซึ่งกลุ่มนี้ได้รับการพักชำระหนี้เป็นเวลา 3 เดือน สิ้นสุดไปเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เริ่มกลับมาชำระหนี้บ้างแล้ว โดยมียอดการกลับมาชำระหนี้ราว 40-50% ของจำนวนลูกค้าที่เข้าโครงการทั้งหมด

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด ( มหาชน) หรือ MTC กล่าวว่า เท่าที่ติดตามการชำระหนี้ของลูกหนี้กลุ่มนี้จนถึงกลางเดือนก.ค. พบว่า มีมากกว่า 40% ที่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ โดยลูกหนี้ที่เข้าสู่มาตรการพักชำระหนี้ของบริษัทช่วงที่ผ่านมามีจำนวน 140,000 สัญญา คิดเป็นมูลค่าสินเชื่อราว 3.6 พันล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 5.8% ของพอร์ตสินเชื่อรวม ส่วนลูกหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้มีจำนวน 80,000 สัญญา คิดเป็นมูลค่าสินเชื่อราว 1.6 พันล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 2.8% ของพอร์ตสินเชื่อรวม 

“ลูกหนี้ที่เข้ามาตรการพักชำระหนี้ได้กลับมาชำระหนี้ตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นไป โดยบริษัทระมัดระวังและติดตามกลุ่มลูกค้าที่ได้รับการชำระหนี้อย่างใกล้ชิดตั้งแต่ในระยะแรก และเราเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มดังกล่าวสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ เนื่องจากเดิม ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเป็นลูกค้าชั้นดี (stage 1) ตั้งแต่ก่อนการพักชำระหนี้อยู่แล้ว ดังนั้นบริษัทจึงไม่มีความกังวลว่าลูกค้าที่ได้รับการช่วยเหลือจะกลายมาเป็นหนี้เสีย หรือ NPL”

นายแดน ฮาร์โซโน่ ประธานกลุ่มลูกค้ารายย่อย และลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) กล่าวว่า ธุรกิจสินเชื่อเงินติดล้อ ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ มีลูกหนี้มาขอรับความช่วยเหลือยืดระยะเวลาชำระหนี้ 3 เดือนและ 6 เดือน ส่วนใหญ่ขอยืดระยะเวลาชำระหนี้ 3 เดือน ปัจจุบันกลับมาชำระหนี้ได้เป็นปกติแล้วเป็นส่วนใหญ่70-80% ของลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการในระยะแรก

นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ผู้ให้บริการสินเชื่อ “กรุงศรี ออโต้” กล่าวว่า กรุงศรี ออโต้ ได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระยะแรก เป็นจำนวนกว่า 640,000 ราย พร้อมทั้งได้ขยายการช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติม ตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย ระยะที่สอง จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยให้ลดค่างวดผ่อนชำระสูงสุด 30% ของค่างวดเดิม หรือให้พักชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) สูงสุด 3 เดือน

สำหรับที่ผ่านมาได้มีลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการในระยะแรก และแจ้งความจำนงเข้าร่วมโครงการต่อในระยะที่สองเพียง 20-25% เท่านั้น ในขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่สามารถกลับมาชำระค่างวดได้ตามปกติหรือประมาณ 75-80%

ทั้งนี้ แนวโน้มหลายธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งในระหว่างนี้ กรุงศรี ออโต้ ได้มีการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาประเมินมาตรการช่วยเหลือต่อไป โดยพร้อมให้การช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม ตามแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending)

นายวิสิทธิ์ พึ่งพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีไอเอ็มบีไทย ออโต้ จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ในเครือ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า หลังคลายล็อกดาวน์คนเริ่มกลับมาทำงานได้พอสมควรแล้วและเริ่มกำลังผ่อนชำระหนี้ได้ตามปกติเป็นส่วนใหญ่  ขณะเดียวกันยังพบสัญญาที่ดีขึ้นตั้งแต่ในช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีลูกค้ามาขอเข้าโครงการพักชำระหนี้เฉลี่ยไม่ถึง 20 คนต่อวัน จากเดิมเป็นหลักพันคนต่อวัน และในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่า จำนวนคงไม่มากกว่านี้แล้ว

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทได้ดำเนินการพักชำระหนี้ให้กับลูกค้าคิดเป็นสัดส่วน 50% ของพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ทั้งหมด 160,000 บัญชี มูลหนี้ 40,000ล้านบาท อย่างไรก็ตามลูกหนี้กลุ่มนี้ที่ยังไปไม่ไหว ได้ช่วยเหลือตามแนวทางการช่วยเหลือลูกหนี้ ระยะที่สอง จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. ) ทั้งยืดหนี้ขยายเทอมลดการผ่อนลง ปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งสัญญาเดิมระยะเวลาชำระหนี้สูงสุด 48 เดือน ปรับขยายระยะเวลาชำระหนี้สูงสุดเป็น 96 เดือน นับรวมระยะเวลาที่ผ่อนมาก่อนหน้า แต่คนใหม่ที่จะขอรับความช่วยเหลือ ต้องพิจารณามากขึ้นว่า อยู่ในกลุ่มมีความเสี่ยงและได้รับผลกระทบขนาดไหน