'สมาคมประกันชีวิต’เสนอรัฐ ขายประกันสุขภาพเดี่ยว

'สมาคมประกันชีวิต’เสนอรัฐ  ขายประกันสุขภาพเดี่ยว

สมาคมประกันชีวิตไทย ชงรัฐขอเสนอขายประกันสุขภาพรายเดียว หวังขยายฐานลูกค้าและสร้างเติบโตหลังโควิด-19 เผยเบี้ยประกันสุขภาพยังโตดี10% ขณะที่ครึ่งปีหลังยังจับสัญญาณความเสี่ยงด้านกำลังซื้อของประชาชนทุกเดือน

นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาคมฯ อยู่ระหว่างหารือกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในเรื่องการขายประกันสุขภาพรายเดียวโดยไม่ต้องพ่วงกับประกันชีวิตที่เป็นกรมธรรม์หลัก เช่นเดียวกับบริษัทประกันวินาศภัย รวมถึงการปรับขนาดของกรมธรรม์ประกันชีวิตหลัก หรือการกำหนดเบี้ยประกันสำหรับแต่ละช่วงอายุที่มีความยืดหยุ่นสอดคล้องกับความเสี่ยงของแต่ละบุคคลมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสในการที่เติบโตและขยายฐานลูกค้าประกันชีวิต ที่ลูกค้าให้ความสนใจประกันสุขภาพมากขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด -19

เนื่องจากพบว่า เบี้ยประกันสุขภาพ ยังมีโอกาสเติบโตอย่างมากในช่วงครึ่งปีหลังและในอนาคต ขณะที่ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เบี้ยประกันสุขภาพที่ขายโดยบริษัทประกันชีวิต ยังเติบโต10% และคาดว่าจะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงครองส่วนแบ่งหลัก 80% อีก20% เป็นของบริษัทประกันวินาศภัย

นายสาระ กล่าวต่อว่า ความเสี่ยงจากโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมขณะนี้ ยังคงส่งผลกระทบต่อเบี้ยประกันชีวิตในครึ่งปีหลัง ทำให้บริษัทประกันชีวิตยังต้องติดตามกำลังซื้อของประชาชนที่มีโอกาสลดลงได้จากผลกระทบรายได้น่าจะเริ่มเห็นชัดเจนขึ้น นับเป็นเรื่องที่ยังต้องประเมินอย่างต่อเนื่องทุกเดือน

แต่ก็ยังยืนยันว่า ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ที่เบี้ยประกันชีวิตหดตัว ส่วนใหญ่มาจากกรมธรรม์ที่ครบกำหนดแต่ยังมีความคุ้มครอง และบริษัทต้องปรับพอร์ตมาขายประกันประเภทความคุ้มครองและประกันสุขภาพซึ่งมีขนาดเล็กกว่าประกันแบบสะสมทรัพย์ถึง 10 เท่า

ดังนั้น สมาคมฯ ยังคงเป้าประมาณเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งระบบติดลบ 2% ถึง 5% หรือมูลค่า 580,000-600,000 ล้านบาท โดยยังมีโอกาาสติดลบได้มากขึ้นอีกในครึ่งหลังของปี

ขณะที่ในครึ่งปีแรก 2563 ทั้งระบบมีเบี้ยประกันชีวิตรับรวม 285,943 ล้านบาท ติดลบ 3% แบ่งเป็นสำหรับสัดส่วนเบี้ย ประกันสะสมทรัพย์ 48.39% ประกันชีวิต 16.61% ประกันสุขภาพ 12.76% อื่นๆ 12.89% ประกันสินเชื่อ 5.5% และ ยูนิตลิงค์ 3.85%