เศรษฐกิจสหรัฐ“ถดถอย” กดค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า

เศรษฐกิจสหรัฐ“ถดถอย” กดค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า

สัปดาห์นี้ดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินส่วนใหญ่ หลังรายงานตัวเลขจีดีพีสหรัฐฯไตรมาสที่สองที่ผ่านมาหดตัว 32.9% จากไตรมาสก่อน  หลังไตรมาสแรกหดตัว 5% (QoQ) การหดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯทั้ง 2 ไตรมาสของปีนี้ ทำให้สหรัฐฯเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

สำหรับสัปดาห์หน้า ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย คาดว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.90-31.50 บาทต่อดอลลาร์ โดยประเด็นหลักยังต้องจับตาสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศต่างๆที่ยังเพิ่มขึ้นมากต่อเนื่องโดยเฉพาะในสหรัฐฯ นอกจากนี้ความขัดแย้งสหรัฐฯกับจีนที่เพิ่มขึ้น

 

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (31 ก.ค.2563) ปิดซื้อขายที่ 1,328.53 จุด เพิ่มขึ้น 12.79 จุด หรือ 0.97% โดยมีมูลค่าซื้อขาย 61,280.90 ล้านบาท ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าประเมินว่าดัชนีฯมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 1,280-1,340 จุด  เนื่องจากตลาดยังคาดจะมีปัจจัยเชิงบวกใหม่เข้ามากระตุ้น  ขณะที่ปัจจัยภายนอกจะมีแรงกดดันเข้ามาจากผลกระทบของโควิด-19 และทิศทางของผู้นำสหรัฐก่อนการเลือกตั้ง รวมถึงจะมีการประชุมของกนง. คาดว่าจะคงดอกเบี้ย

ด้านความเคลื่อนไหวราคาทองคำอยู่ที่ 1,976.67 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ราคาทองคำในประเทศอยู่ที่ 29,100 บาทต่อบาททองคำ ด้านวายแอลจี บูลเลี่ยนอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ระบุ เบื้องต้นนักลงทุนสามารถเข้าซื้อเพื่อเก็งกําไรระยะสั้น ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,959-1,954 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และจะมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,939 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคําไม่หลุดแนวรับราคาทองคําจะพยายามปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,984 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่บริเวณนี้อาจโดนแรงขายสลับซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวัง