เครือข่ายต้านค้ามนุษย์ ยื่น 'อสส.' ไม่ไว้ใจ 'เนตร นาคสุข' ปมสั่งไม่ฟ้องวิคตอเรียซีเครท

วันนี้ 31 กรกฎาคม เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด เครือข่ายองค์กรผู้หญิงและเด็ก และเครือข่ายปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ (ANTI-HUMAN TRAFFICKING NETWORK หรือ ATN) 13 องค์กร นำโดยนางชลีรัตน์ ทิมบุตร ประธานเครือข่ายพิทักษ์สตรี และนายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ฯ ได้ยื่นหนังสือถึง อัยการสูงสุด โดยมีนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษก อสส. เป็นผู้รับเรื่อง

นางชลีรัตน์ กล่าวว่า เนื่องด้วยเครื่อข่ายฯ ได้ยื่นหนังสือที่สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี ขอให้ตรวจสอบการใช้ดุลพินิจขององค์กรอัยการกองคดีค้ามนุษย์ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการพิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดี นางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ วิคตอเรียซีเครท อาบอบนวด โดยกลับคำสั่งเดิมของตนเองที่เคยสั่งฟ้องนางนิภา นายธนพล เจ้าของและผู้บริหารสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท

ต่อมา สำนักงานอัยการสูงสุด มีคำสั่ง แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง และคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ 1794/2562 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 และในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้เชิญผู้แทนเครือข่ายปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ไปให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการฯ โดยในการเข้าไปให้ถ้อยคำวันนั้นตัวแทนเครือข่ายปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้แสดงเจตจำนงและระบุในเอกสารว่าขอให้คณะกรรมการฯ แจ้งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แก่ทางเครือข่ายทราบด้วย

ดังนั้นด้วยเวลาที่ล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว เครือข่ายองค์กรผู้หญิงและเด็ก และเครือข่ายปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ 13 องค์กร จึงใคร่ขอทราบความเห็นและผลการตรวจตรวจสอบประเด็นดังกล่าวที่มี นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด เป็นประธาน

นางชลีรัตน์ กล่าวว่า มีความกังวลใจเนื่องจากในหลายคดีทั้งการไม่อุทธรณ์ คดีฟอกเงินธนาคารกรุงไทย ที่มีนายโอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร เป็นจำเลย และสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหา เกี่ยวข้องกับรองอัยการสูงสุด นายเนตร นาคสุข ซึ่งเป็นประธานคณะทำงานอัยการตรวจสอบการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาคดีวิคตอเรียซีเครท ด้วย

ขณะที่นายรณสิทธิ์ กล่าวว่า เราเชื่อว่าทั้งนางนิภา และนายธนพล เป็นเจ้าของวิคตอเรียซีเครท แต่หลุดพ้นจากคดีไปเรียบร้อย มันก็เหมือนกับคดีบอส อยู่วิทยา เมื่อไหร่ที่จรดปากกาไปก็จะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ทันที ทั้งที่ผู้ต้องหาเหล่านี้ยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะฉะนั้น ขณะอัยการยังไม่ได้ต่อสูในชั้นศาล ผู้ต้องหาก็กลายเป็นบริสุทธิ์แล้ว ดังนั้น เราจึงต้องการให้อัยการแสดงหลักฐาน เหตุผลการสั่งไม่ฟ้องบุคคลเหล่านั้น ถ้าท่านบอกว่ามีหลักฐาน เราต้องการเห็นหลักฐานนั้นให้ท่านนำมาให้คนไทยได้เห็นอย่าพูดแต่เพียงปากเปล่า

นายรณสิทธิ์ กล่าวว่า ดังนั้น การที่เราไม่ไว้ใจท่าน จึงได้ยื่นต่อนายกรัฐมนตรี และเราได้ทราบมาภายหลังว่าประธานคณะทำงานอัยการตรวจสอบคำสั่งอัยการไม่ฟ้องนางนิภา และนายธนพล คือนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ซึ่งส่วนตัวบอกได้เลยว่า ส่วนตัวไม่ไว้ใจ ดังนั้น เราจึงมาทวงผลการตรวจสอบของกรรมการชุดนายเนตร เป็นประธานซึ่งน่าจะออกมาแล้ว

นายรณสิทธิ์ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า กระบวนการสั่งคดีที่ผ่านๆ มาในกระบวนการยุติธรรมบางองค์กร มีการฟอกคนจากคนไม่ดีให้เป็นคนดี จากคนผิดให้เป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเคยมีมาแล้วในอดีต และกระบวนการฟอกคนเป็นสิ่งที่น่ากลัว เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น เราจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคดีวิคตอเรียซีเครท